xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ“โรงสีสิริภิญโญ”คู่กรณีชาวนาเหนือ/แฉ ส.ส.พปช.ต้นเหตุหลอกชาวนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – ตำรวจออกหมายจับ “โรงสีสิริภิญโญ” คู่กรณีชาวนาปรังแล้ว ขณะที่รัฐเมินขยายจำนำข้าวนาปี แฉส.ส.พลังประชาชนสุดแสบต้นเหตุหลอกชาวนา

รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่กลุ่มเกษตรกรในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ได้แจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับหลายสถานีตำรวจภูธรในเชียงราย เรื่องการจำหน่ายข้าวนาปรังฤดูการเก็บเกี่ยว 2551 กับโรงสีสิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ยังไม่ได้รับเงินเป็นจำนวนมากนั้น ทางตำรวจได้ตั้งข้อหายักยอกทรัพย์เอาไว้

ล่าสุดพนักงานสอบสวน ที่ช่วยเหลือชาวบ้านได้สรุปสำนสวน และออกหมายจับผู้ประกอบการโรงสีสิริภิญโญ และได้แจ้งไปยังทางโรงสีให้ได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ออกหมายเรียก เพื่อไปให้ปากคำแต่ทางโรงสีไม่มาให้ปากคำ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีปัญหาชาวนาในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวนาปรังให้กับโรงสีสิริภิญโญ ประกอบไปด้วยชาวนาใน จ.เชียงราย 507 ราย เป็นเงิน 25,160,040 บาท จ.เชียงใหม่ 168 ราย เป็นเงิน 6,696,280 บาท จ.ลำพูน 45 ราย เป็นเงิน 1,688,514 บาท รวมทั้งหมด 720 ราย เป็นเงิน 33,544,834 บาท

ทั้งนี้ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่เกษตรกรประสบปัญหาข้าวนาปรังราคาตกต่ำในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จึงชุมนุมกันนับหมื่นคนในพื้นที่ อ.เมือง อ.พาน อ.แม่จัน กระทั่งได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชาชน ได้ประสานให้กรมการค้าภายในไปช่วยเหลือชาวบ้าน และกรมการค้าภายในได้ประสานไปยังนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ช่วยเหลือ

แหล่งข่าวกล่าวว่าเบื้องต้นมีการตกลงกันว่าจะให้นายมิ่งขวัญ ออกไปหาเงินทุนและแหล่งจำหน่ายในต่างประเทศเพื่อนำไปให้เอกชนนำไปซื้อข้าวนาปรังจากชาวนา ทำให้กรมการค้าภายในประสานไปยังโรงสีสิริภิญโญ ให้ลงไปทำข้อตกลงกับชาวบ้าน แต่ท้ายที่สุดปรากฎว่า ไม่สามารถหาเงินทุนและตลาดให้กับโรงสีสิริภิญโญ ทำให้กระทรวงพาณิชย์ทิ้งเรื่องให้กรมการค้าภายในแก้ไข โดยมีแนวทางคือให้เงินกู้กับ ธกส.เพื่อให้นำผ่านไปให้โรงสีสิริภิญโญ และนำส่งต่อไปให้เกษตรกรผู้ทำตกลงซื้อขายอีกต่อหนึ่ง

ปรากฎว่า จนถึงปัจจุบันเหลือเงินที่ยังไม่ได้มอบให้กับ ธกส.อีกประมาณ 33 ล้านบาทดังกล่าวจึงทำให้เป็นปัญหาอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่านายมิ่งขวัญและ ส.ส.พรรคพลังประชาชนคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการนำข้าวของเกษตรกรไปขายโดยไม่จ่ายเงินให้กับชาวนาดังกล่าวหรือไม่

ด้านนายจิรายุ เผ่ากา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เขต อ.พาน ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวนาในหลายเวที กล่าวว่า เรื่องของคดีความก็คงต้องว่ากันไปตามกฎหมายเพราะชาวบ้านได้แจ้งความเอาไว้แล้วและมีการรวมคดีในท้องที่ต่างๆ เอาไว้ที่พนักงานสอบสวน ภ.เชียงราย คาดว่าถ้าเจ้าของโรงสีจะมามอบตัวหรือถูกจับกุม ก็คงต้องเดินทางไปเชียงรายต่อไป

กรณีการเคลื่อนไหวของชาวนาคงต้องดำเนินต่อไป เพราะยังไม่ได้รับเงินเลย แม้ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย.นี้ กลุ่มชาวนาได้รวมตัวกันไปยื่นหนังสือผ่านนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อส่งไปยังคณะมนตรีให้อนุมัติเงินกู้ให้ ธกส.อีก แต่ปรากฎว่าทางคณะรัฐมนตรีไม่ผ่านเรื่องดังกล่าว ทำให้ชาวนาที่เดือดร้อนยังคงไม่ได้รับเงินกันต่อไป

แหล่งข่าวแกนนำชาวนาคนหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มชาวนาใน 4-5 อำเภอ ประมาณ 500 คน ที่ยังประสบปัญหาไม่ได้รับเงินจะมีการชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งในพื้นที่ อ.เมือง โดยจะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่กว่าที่ผ่านมาเพราะถึงที่สุดแล้ว

“รัฐบาลกำลังจะช่วยเหลือกรณีรับจำนำข้าวนาปีกว่า 1 หมื่นล้านบาท สำหรับพื้นที่ จ.เชียงราย คาดว่าจะใช้ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่กรณีข้าวนาปรังที่เหลือมีเงินที่ไม่ได้จ่ายคงเหลือทั่วภาคเหนือเพียงประมาณ 33 ล้านบาท และเฉพาะ จ.เชียงราย ประมาณ 25 ล้านบาท รัฐบาลน่าจะตัดสินใจช่วยได้ ชาวนาจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”

เขามองว่า ความจริงน่าจะออกหมายจับทั้งเจ้าของโรงสี นายอำเภอและอธิบดีกรมการค้าภายในด้วย เพราะเป็นคนลงนามในหนังสือตกลงซื้อขายข้าวนาปรังระหว่างชาวนากับโรงสีสิริภิญโญ แต่กลับโดนแค่เจ้าของโรงสีคนเดียว กระนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องได้เงินคืนพวกเราจึงจะชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งเพื่อเรียกร้องไปยังรัฐบาลส่วนสถานที่ยังไม่กำหนด เพราะบางคนยังเหลือเงิ้นที่ไม่ได้รับอีกขั้นต่ำรายละ 30,000 บาท และเฉลี่ยในภาพรวมรายละกว่า 80,000 บาท ที่สำคัญเป็นเงินทุนทั้งนั้นไม่ใช่กำไรแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ด้านการขอเพิ่มจำนวนจุดรับจำนำข้าวนาปีที่จะออกมาในฤดูกาล 2551-1552 นี้ ปรากฎว่าล่าสุดรัฐบาลก็ไม่ได้มองเห็นถึงปัญหาที่ชาวนากลุ่มเดียวกันไปเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนจุดรับจำนำ เพราะจุดที่มีอยู่ไม่สมดุลกับพื้นที่โดยบางพื้นที่ เช่น อ.แม่จัน มีถึง 2 จุด เป็นต้น

นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบและหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2551 ให้องค์การคลังสินค้า (อตส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) รับฝากและออกใบประทวนให้เกษตรกรรับจำนำใบประทวนและให้ ธกส.รับจำนำข้าวต่อจากเกษตรหรือสถาบันเกษตรกร ที่อยู่ในยุ้งฉางของตนเอง ระยะเวลารับจำนำ 1 พ.ย.2551 ถึง 28 ก.พ.2552 นั้น ได้มีโรงสีใน จ.เชียงราย สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ดังนี้

1. หจก.โรงสี ก.เทพสวัสดิ์ 80 หมู่ 2 ต.สันติสุข อ.พาน

2. หจก.แม่จันพันธารัตน์ 138 หมู่ 9 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน

3. บริษัท แม่จันโกลเด้นเกรน จำกัด 199 หมู่ 2 จันจว้าใต้ อ.แม่จัน

4. บริษัทเชียงรายข้าวหอม (1991)จำกัด 288 หมู่ 1 ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด

5. บริษัท เชียงรายเพชรไพฑูรย์ จำกัด 470 หมู่ 9 ต.เมืองพาน อ.พาน

6. บริษัท ข้าวทองธวัช จำกัด 149 หมู่ 4 ต.สันติสุข อ.พาน จ.เชียงราย

กำลังโหลดความคิดเห็น