ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวนาเชียงใหม่และลำพูน รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ จี้รัฐเร่งมือช่วย หลัง “โรงสีศิริภิญโญ” ที่ร่วมโครงการรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวของกรมการค้าภายในยังค้างจ่ายเงินค่าข้าวอีก 180 ล้านบาท แกนนำชาวนาเชียงใหม่ระบุ ส.ส.พปช.ในพื้นที่เมินช่วย เตรียมเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขจริงจัง
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (20 ส.ค.) กลุ่มชาวนาจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูนกว่า 100 คนได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทวงค่าข้าวเหนียวเปลือกนาปรังที่ขายให้แก่โรงสีศิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงพาณิชย์ แต่จนถึงเวลานี้โรงสีดังกล่าวยังค้างจ่ายค่าข้าวให้แก่ชาวนาประมาณ 3,000 รายในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และ จ.ลำพูน เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 180 ล้านบาท แบ่งเป็น จ.เชียงใหม่ประมาณ 30 ล้านบาท จ.เชียงราย ประมาณ 130 ล้านบาท และ จ.ลำพูน ประมาณ 8 ล้านบาท ทั้งที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อให้แก่ทางโรงสีเพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่ชาวนาแล้ว
นายจำรัส ลุมมา ประธานกลุ่มเกษตรหนองแสะพัฒนา และกลุ่มผู้ปลูกข้าวชาวนาแม่แฝก แกนนำชาวนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องค่าข้าวที่ทางโรงสียังคงค้างไม่จ่ายให้แก่ชาวนา 3 จังหวัด โดยที่ผ่านมาแม้โรงสีจะมีการจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนาไปแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 186 ล้านบาท แต่ยังค้างจ่ายอยู่อีกเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 180 ล้านบาท
"เท่าที่ทราบที่ผ่านมา ทางโรงสีได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.ไปแล้วเป็นเงินทั้งสินประมาณ 288 ล้านบาท โดยใช้ข้าวที่รับซื้อจากชาวนาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งยังไม่เต็มวงเงินค่าข้าวที่รับซื้อจากชาวนาทั้งหมดประมาณ 366 ล้านบาท เนื่องจากทางโรงสีไม่ยอมนำข้าวสารเหนียวของโรงสีอีก 8,000 ตัน ไปใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ ซึ่งไม่เข้าใจว่าทางโรงสีมีเหตุผลอะไร"
นายจำรัส กล่าวต่อว่า ผลกระทบจากการที่ชาวนายังไม่ได้รับเงินค่าขายข้าวจากทางโรงสีนั้น ทำให้ชาวนาทั้ง 3 จังหวัดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะทำให้ไม่มีเงินสำหรับนำมาใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีเงินนำไปชำระหนี้สินที่กู้ยืมมาและไม่มีเงินทุนที่จะนำไปใช้ทำนาข้าวในฤดูกาลใหม่นี้
"วันนี้ นอกจากการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ชาวนายังได้ส่งตัวแทนไปร่วมประชุมหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและโรงสี ที่กรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งทางชาวนาเชียงใหม่ และลำพูน พร้อมจะปักหลักอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรอรับฟังคำตอบที่ชัดเจนให้ได้ และหากยังไม่มีความชัดเจนว่าชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าวเมื่อใด หรือยังไม่ได้รับคำตอบเป็นที่พอใจ แกนนำชาวนาเชียงใหม่ บอกว่า เตรียมที่จะเข้าไปชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่กรุงเทพฯ และมีความเป็นได้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย เพราะที่ผ่านมาได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือไปยังทางกลุ่ม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนองในการให้ความช่วยเหลือหรือเป็นธุระจัดการแก้ไขปัญหาให้อย่างจริงจังเลย" นายจำรัส กล่าว
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (20 ส.ค.) กลุ่มชาวนาจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูนกว่า 100 คนได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทวงค่าข้าวเหนียวเปลือกนาปรังที่ขายให้แก่โรงสีศิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงพาณิชย์ แต่จนถึงเวลานี้โรงสีดังกล่าวยังค้างจ่ายค่าข้าวให้แก่ชาวนาประมาณ 3,000 รายในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และ จ.ลำพูน เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 180 ล้านบาท แบ่งเป็น จ.เชียงใหม่ประมาณ 30 ล้านบาท จ.เชียงราย ประมาณ 130 ล้านบาท และ จ.ลำพูน ประมาณ 8 ล้านบาท ทั้งที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อให้แก่ทางโรงสีเพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่ชาวนาแล้ว
นายจำรัส ลุมมา ประธานกลุ่มเกษตรหนองแสะพัฒนา และกลุ่มผู้ปลูกข้าวชาวนาแม่แฝก แกนนำชาวนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องค่าข้าวที่ทางโรงสียังคงค้างไม่จ่ายให้แก่ชาวนา 3 จังหวัด โดยที่ผ่านมาแม้โรงสีจะมีการจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนาไปแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 186 ล้านบาท แต่ยังค้างจ่ายอยู่อีกเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 180 ล้านบาท
"เท่าที่ทราบที่ผ่านมา ทางโรงสีได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.ไปแล้วเป็นเงินทั้งสินประมาณ 288 ล้านบาท โดยใช้ข้าวที่รับซื้อจากชาวนาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งยังไม่เต็มวงเงินค่าข้าวที่รับซื้อจากชาวนาทั้งหมดประมาณ 366 ล้านบาท เนื่องจากทางโรงสีไม่ยอมนำข้าวสารเหนียวของโรงสีอีก 8,000 ตัน ไปใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ ซึ่งไม่เข้าใจว่าทางโรงสีมีเหตุผลอะไร"
นายจำรัส กล่าวต่อว่า ผลกระทบจากการที่ชาวนายังไม่ได้รับเงินค่าขายข้าวจากทางโรงสีนั้น ทำให้ชาวนาทั้ง 3 จังหวัดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะทำให้ไม่มีเงินสำหรับนำมาใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีเงินนำไปชำระหนี้สินที่กู้ยืมมาและไม่มีเงินทุนที่จะนำไปใช้ทำนาข้าวในฤดูกาลใหม่นี้
"วันนี้ นอกจากการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ชาวนายังได้ส่งตัวแทนไปร่วมประชุมหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและโรงสี ที่กรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งทางชาวนาเชียงใหม่ และลำพูน พร้อมจะปักหลักอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรอรับฟังคำตอบที่ชัดเจนให้ได้ และหากยังไม่มีความชัดเจนว่าชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าวเมื่อใด หรือยังไม่ได้รับคำตอบเป็นที่พอใจ แกนนำชาวนาเชียงใหม่ บอกว่า เตรียมที่จะเข้าไปชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่กรุงเทพฯ และมีความเป็นได้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย เพราะที่ผ่านมาได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือไปยังทางกลุ่ม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนองในการให้ความช่วยเหลือหรือเป็นธุระจัดการแก้ไขปัญหาให้อย่างจริงจังเลย" นายจำรัส กล่าว
