ผู้จัดการออนไลน์ - ปัญหาการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น กลายเป็นประเด็นที่ทุ่มเถียงถึงความรับผิดชอบของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง หากผู้สมัครนั้นๆ ได้รับการเลือกตั้งแล้วถูกเพิกถอนสิทธิ์ หรือต้องคดีถูกตรวจสอบในคดีทุจริตคอร์รัปชัน อย่างกรณีของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.
ล่าสุดที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีกำหนดเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง ในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.51 นี้ โดยในจำนวนนี้มีผู้สมัครตัวเต็งถึง 3 คน เสนอตัวลงแข่งขัน 1 ในนั้น คือ นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรี ที่เพิ่งพ้นจากวาระลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ซึ่งถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 3 อ.เมือง จ.นครปฐม มีหนังสือที่ ตผ 0031 นฐ/378 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ลงนามโดย นางกุลทิพย์ สุวรรณปัทมะ ผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญากับ นางสาวจันทร์ประภา อสสะอาด ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม และ นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์ ในข้อหากระทำการอันน่าเชื่อว่า เป็นการกระทำที่ทุจริตเกี่ยวกับการจ่ายเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2550 ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง 1
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า นางสาวจันทร์ประภา เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาได้รับมอบหมายจาก นายโกวิทย์ ให้มีหน้าที่เบิกเงินตามเช็คเพื่อนำไปเบิกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์ได้รับจำนวน 199 ราย เป็นเงินจำนวน 1,194,000 บาท
จากการตรวจสอบปรากฏว่า มีการเบิกเงินมาแล้วนำมาเก็บไว้กับตัวเอง และเบียดบังเงินดังกล่าวไปให้กับนายโกวิทย์โดยทุจริต ไม่นำไปจ่ายให้กับผู้สูงอายุ แต่กลับรายงานผู้บังคับบัญชาว่าได้จ่ายเงินดังกล่าวแล้ว ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของคนอื่นโดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
สำหรับ นายโกวิทย์ เป็นผู้ใช้ให้ นางสาวจันทร์ประภา กระทำความผิด เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2550 นายโกวิทย์ ได้สั่งให้ นางสาวจันทร์ประภา ไปถอนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่จำนวน 1,194,000 บาท จากธนาคารมาให้ตน ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ, ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
ทั้งนี้ เมื่อ นางสาวจันทร์ประภา ได้กระทำความตามที่ นายโกวิทย์ ได้ใช้แล้ว นายโกวิทย์ จึงมีความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 วรรค 2 ถือเป็นการกระทำความผิดที่ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนเป็นการกระทำที่ต้องด้วยมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 301 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 302(3) พิจารณาแล้วเห็นชอบกับผลการดำเนินการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้ดำเนินการดังนี้
1.ดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย กับ นางสาวจันทร์ประภา ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ และ นายโกวิทย์ ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ล่าสุดที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีกำหนดเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง ในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.51 นี้ โดยในจำนวนนี้มีผู้สมัครตัวเต็งถึง 3 คน เสนอตัวลงแข่งขัน 1 ในนั้น คือ นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรี ที่เพิ่งพ้นจากวาระลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ซึ่งถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 3 อ.เมือง จ.นครปฐม มีหนังสือที่ ตผ 0031 นฐ/378 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ลงนามโดย นางกุลทิพย์ สุวรรณปัทมะ ผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญากับ นางสาวจันทร์ประภา อสสะอาด ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม และ นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์ ในข้อหากระทำการอันน่าเชื่อว่า เป็นการกระทำที่ทุจริตเกี่ยวกับการจ่ายเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2550 ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง 1
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า นางสาวจันทร์ประภา เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาได้รับมอบหมายจาก นายโกวิทย์ ให้มีหน้าที่เบิกเงินตามเช็คเพื่อนำไปเบิกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์ได้รับจำนวน 199 ราย เป็นเงินจำนวน 1,194,000 บาท
จากการตรวจสอบปรากฏว่า มีการเบิกเงินมาแล้วนำมาเก็บไว้กับตัวเอง และเบียดบังเงินดังกล่าวไปให้กับนายโกวิทย์โดยทุจริต ไม่นำไปจ่ายให้กับผู้สูงอายุ แต่กลับรายงานผู้บังคับบัญชาว่าได้จ่ายเงินดังกล่าวแล้ว ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของคนอื่นโดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
สำหรับ นายโกวิทย์ เป็นผู้ใช้ให้ นางสาวจันทร์ประภา กระทำความผิด เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2550 นายโกวิทย์ ได้สั่งให้ นางสาวจันทร์ประภา ไปถอนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่จำนวน 1,194,000 บาท จากธนาคารมาให้ตน ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ, ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
ทั้งนี้ เมื่อ นางสาวจันทร์ประภา ได้กระทำความตามที่ นายโกวิทย์ ได้ใช้แล้ว นายโกวิทย์ จึงมีความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 วรรค 2 ถือเป็นการกระทำความผิดที่ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนเป็นการกระทำที่ต้องด้วยมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 301 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 302(3) พิจารณาแล้วเห็นชอบกับผลการดำเนินการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้ดำเนินการดังนี้
1.ดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย กับ นางสาวจันทร์ประภา ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ และ นายโกวิทย์ ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ