xs
xsm
sm
md
lg

ตร.โคราชสกัดจับแก๊งขนยาเสพติดข้ามชาติ-ได้กัญชา 300 กก./ยาบ้า 1.8 หมื่นเม็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผบช.ภ.3 และคณะ แถลงข่าว สกัดจับแก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 300 กก. และยาบ้าอีก 18,000 เม็ด มูลค่าร่วม 10 ล้าน วันนี้ (14 ก.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราช สกัดจับแก๊งขนยาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งอื้อ 300 กก.และยาบ้าอีก 18,000 เม็ด มูลค่าร่วม 10 ล้าน เผย ชาวลาวขนขึ้นเรือข้ามแม่น้ำโขงมาส่งให้ด้านชายแดน จ.มุกดาหาร ก่อนบรรทุกท้ายกระบะปิกอัพใช้กระสอบดินปุ๋ยวางทับอำพรางตาเจ้าหน้าที่ รับสารภาพทำมาแล้ว 3 ครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 บาท นำส่งให้ลูกค้าที่ จ.สตูลส่งขายต่อมาเลเซีย

วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ตร.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ตร.ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายจรูญ หรือ เล็ก ยี่สุ่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ นายสมาน หรือ บังเล็ก หมัดสดาย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 /1 หมู่ที่ 5 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี

พร้อมของกลางเป็น กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 339 แท่ง น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม, ยาบ้าอีกจำนวน 18,000 เม็ด, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เชฟโรเลต สีบรอนซ์เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บร 4779 สุราษฎร์ธานีจำนวน 1 คัน และ โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ได้ตั้งด่านตรวจสกัด ที่บริเวณถนนมิตรภาพบายพาส จอหอ บ้านหนองกระดังงา หมู่ 15 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) พบรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งมี นายจรูญ เป็นคนขับ จึงเรียกให้หยุด และเข้าตรวจค้นพบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ที่กระบะด้านหลังโดยมีดินปุ๋ยวางทับอยู่ด้านบน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.จอหอ นายจรูญ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายสมาน หรือ บังเล็ก ไปขนกัญชามาจากบริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านดอนตาล อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ซึ่งมีชาวลาวขนกัญชาขึ้นเรือข้ามมาส่งให้ยังฝั่งไทย ซึ่งจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สตูล เพื่อส่งไปขายยังประเทศมาเลเซีย โดยได้ค่าจ้างขนครั้งละ 100,000 บาท ทำมาแล้ว 3 ครั้ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลการสืบสวน สามารถจับกุม นายสมาน หรือบังเล็ก ได้พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า พร้อมยาบ้าอีกจำนวน 18,000 เม็ด ที่บริเวณ ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางบัวทอง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 2 คน ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รอง ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมแก๊งขนยาเสพติดเข้าประเทศรายใหญ่ข้ามชาติ ซึ่งกัญชาหากสามารถนำออกไปขายที่ประเทศมาเลเซียได้ จะมีราคาสูงถึง กก.ละ 10,000 บาท และ ยาบ้าเม็ดละ 350-400 บาท รวมมูลค่าของยาเสพติดที่จับกุมได้ครั้งนี้ร่วม 10 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างขณะนี้ พบว่า ชายแดนด้าน อ.เขมราช จ.อุบลราชธานี มีการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศลดลง เนื่องจากทางการ ส.ป.ป.ลาว ให้ความร่วมมือและเข้มงวดมากขึ้น

ฉะนั้น จึงทำให้ขบวนการขนยาเสพติดเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงใหม่โดยหันไปนำเข้าทางด้านชายแดน จ.มุกดาหาร, นครพนม และ จ.หนองคาย มากขึ้น และขณะนี้ตลาดมีความต้องการกัญชาแห้งสูงจึงทำให้มีการจับกุมยาเสพติดประเภทนี้มาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจสกัดตามถนนสายหลักอย่างต่อเนื่อง




กำลังโหลดความคิดเห็น