ทุกข์ซ้ำคนจนริมน้ำมูลอุบลฯ เผชิญทั้งน้ำท่วม-ลมหนาว

อุบลราชธานี - คนเมืองดอกบัวริมฝั่งแม่น้ำมูลรับกรรม 2 เด้ง ทั้งภัยน้ำท่วมภัยลมหนาว ทำให้กลุ่มผู้อพยพต้องนอนผวากลัวเต้นท์พังลงมาทับ หลังเกิดเหตุเต้นท์ถูกลมพัดพังลงมาแล้ว 1 ราย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย


ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแจ้งว่า เต็นท์ใช้อพยพหนีภัยน้ำท่วมของชาวชุมชนท่าบ้งมั่ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตั้งอยู่ด้านข้างสำนักงานที่ดินประจำอำเภอถูกแรงลมพัดจนเต้นท์ล้มลงมา เมื่อเข้าตรวจสอบเป็นเต็นท์ที่พักของนางคำเบาะ นที อายุ 66 ปี โดยเมื่อเย็นวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา มีลมพัดแรงจากสภาพอากาศหนาว ทำให้เต็นท์ที่ทางการนำมากางใช้พักอาศัยหนีภัยน้ำท่วมชั่วคราวทนแรงลมไม่ไหวได้พังลงมาด้านหนึ่ง แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในเต็นท์จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงสิ่งของเสียหายเล็กน้อย

นางคำเบาะ เล่าว่า ตนและชาวชุมชนรวม 96 ครอบครัว ประมาณ 1,000 คน ได้อพยพหนีภัยน้ำท่วมจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งมาพักอาศัยอยู่ในจุดอพยพที่ราชการจัดให้นานกว่า 2 เดือนแล้ว ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มลดลงเป็นลำดับ ชาวชุมชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในที่สูง จึงเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าไปอยู่ในบ้านเรือนบ้างแล้ว สำหรับตนและเพื่อนบ้านอีกกว่า 10 ครอบครัว ซึ่งมีบ้านตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มยังถูกน้ำท่วมจึงต้องพักอาศัยอยู่ในจุดอพยพต่อไป

นางคำเบาะ กล่าวว่า อดีตบ้านจะถูกน้ำท่วมอยู่ราว 1 สัปดาห์ก็สามารถกลับเข้าไปอยู่ได้ตามปกติ แต่ปัจจุบันตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนปากมูล ทำให้ในแม่น้ำมูลไหลช้าชาวชุมชนต้องทนถูกน้ำท่วมขังนาน 2-3 เดือน สำหรับความทุกข์ของชาวบ้านที่ประสบอุกภัยในปีนี้ นอกจากต้องอาศัยอยู่ในเต้นท์ที่พักชั่วคราว ซึ่งมีความแออัดแล้ว เต้นท์ยังมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง เมื่อมีลดหนาวพัดมาปะทะผ้าเต้นท์ที่ใช้บังลมก็เริ่มขาด

ช่วงกลางคืนผู้อพยพต้องสวมใส่เสื้อผ้า 2-3 ชั้น เพื่อกันอากาศหนาวเย็น และตั้งแต่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือจากทางการแล้ว 3 ครั้ง

สำหรับเต็นท์ที่พังลงมาก็จะขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันยกขึ้นและนำไม้ไผ่เข้ามาผูกยึดให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเต็นท์ที่พักชั่วคราว นอกจากประสบปัญหาอากาศเย็นจากลมพัดแรงยังต้องนอนผวากลัวเต็นท์พังลงมาทับซ้ำเติมเข้าไปอีกด้วย