หนองคาย - จังหวัดหนองคายพิจารณาคัดสรรสุดยอดสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย นำสู่คณะกรรมการกลางจัดลำดับคุณภาพสินค้าก่อนออกสู่ตลาด พร้อมแนะกลุ่มผู้ผลิตสินค้าปรับกลยุทธ์ผลิตสินค้ารับมือสภาพวิกฤตเศรษฐกิจยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชุมชน
ที่ห้องประชุมโรงแรมทิพย์ อ.เมืองหนองคาย นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายธนิต แสงพันธ์ พัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย และนางอรัญญา สุจนิล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี 2552 จังหวัดหนองคาย ซึ่งได้มีการลงทะเบียนสำรวจข้อมูลผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าโอทอปในพื้นที่ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 422 ราย
แยกเป็นกลุ่มผู้ผลิตชุมชน 375 ราย ผู้ประกอบการรายเดียว 38 ราย SMEs 9 ราย มีผลิตภัณฑ์ที่ลงทะเบียนทั้งสิ้น 814 ผลิตภัณฑ์ แยกเป็นประเภทอาหาร 185 ผลิตภัณฑ์ ประเภทเครื่องดื่ม 18 ผลิตภัณฑ์ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 207 ผลิตภัณฑ์ ประเภทของใช้ของตกต่างของที่ระลึก 354 ผลิตภัณฑ์ และประเภทสมุนไพรที่
ทั้งนี้ ในการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้จะมีการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดกลุ่มละ 1 ผลิตภัณฑ์ ส่งไปยังคณะกรรมการส่วนกลางเพื่อพิจารณาจัดระดับผลิตภัณฑ์ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะได้รับการจัดระดับกี่ดาว ซึ่งจะเป็นการรับประกันคุณภาพสินค้าก่อนนำออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
โดยการคัดสรรนั้นถือเป็นการแข่งขันกับตัวเองเพื่อให้ผู้ผลิตพัฒนาหรือรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับจนสามารถเสริมรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน
นางอรัญญา สุจนิล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตสินค้าแต่ละประเภทหากได้รับการจัดระดับคุณภาพสินค้าแล้วควรรักษาคุณภาพมาตรฐานของสินค้าให้ได้ เพื่อรักษาฐานตลาดตลอดจนขยายตลาดออกไปอีก ซึ่งในอนาคตข้างหน้าที่มีความเสี่ยงต่อวิกฤตเศรษฐกิจจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่เตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ผลิตชุมชนเองควรคำนึงถึงปัญหานี้ ด้วยการปรับกลยุทธ์ผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน สินค้าฟุ่มเฟือย ของประดับตกแต่งอาจจะต้องชะลอหรือรอให้มีความต้องการของตลาดที่แน่ชัดก่อนค่อยผลิตเพื่อลดความเสี่ยงของการขาดทุน
อีกทั้งควรผลิตสินค้าและใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นใน 1-2 ปีนี้จะมีระยะเวลายาวนานเพียงใดกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น