xs
xsm
sm
md
lg

“โฟโต้ฮัท” ทำใจปรับรายโต 15% ทะลวงไตรมาสสี่ปล่อยอีเวนต์กระจุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“โฟโต้ฮัท” ทำใจสู้พิษเศรษฐกิจและการเมืองไม่ไหว ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือเพียง 15% จากเดิมที่วาดฝันไว้ถึง 20% หวั่นใจโค้งสุดท้ายของปีประเมินสถานการณ์ได้ยาก แต่พร้อมสู้สุดใจ ลุยอีเวนต์ถี่หวังดันรายได้สู่เป้า

นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการตัวแทนจำหน่ายกล้องและล้างอัดรูป ภายใต้ชื่อ “โฟ้โต้ ฮัท” เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า เดิมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ได้วางเป้าหมายการเติบโตจากปีก่อนถึง 20% แต่ขณะนี้บริษัทได้มีการปรับยอดขายยรายได้ให้มีการเติบโตเพียง 15% เท่านั้น ภายใต้งบการตลาดกว่า 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา สถานการณ์ต่างๆ ในประเทศยังไม่เลวร้ายมากนัก ภาพรวมรายได้ไตรมาสหนึ่งจึงยังมีการเติบได้ถึง 20% แต่พอมาถึงช่วงไตรมาสสองและสาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และ ราคาน้ำมัน เริ่มส่งผลกระทบรุนแรง ทำให้รายได้ตำกว่าเป้าเล็กน้อย ถึงแม้ยอดขายในแง่แวลู ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา จะเติบโตถึง 10% ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสสี่นี้ ยอมรับว่า ไม่มั่นใจว่า สถานการณ์ต่างๆ จะเลวร้ายไปกว่านี้หรือไม่ ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสี่นี้ จึงต้องมีการปรับจากเดิมที่เป็นแต่ละไตรมาสมาสู่รูปแบบเดือนต่อเดือน โดยในช่วง 3 เดือนที่เหลือนี้ บริษัทจะมุ่งทำการตลาดในรูปแบบของการจัดอีเวนต์และเชิงโปรโมชันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น งานคอมเวิลด์, คอมมาร์ท, โฟโต้แฟร์ และ โฟโต้ฮัท เอ็กซ์โป

นายสมชาย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางด้านการลงทุน บริษัทจะยังคงเดินหน้าต่อไป ตามแผนระยะยาว 3 ปี ที่จะเน้นการขยายสาขา โดยปีนี้ตามแผนจะเปิดให้ได้อย่างน้อย 15 สาขา ทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ซึ่งปีนี้เปิดแล้ว 3 สาขา คือ ชลบุรี พัทยา และขอนแก่น รวมถึงในห้างเทสโก้โลตัส ซึ่งการลงทุนแต่ละสาขาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-5 ล้านบาท

ปัจจุบันจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ยังพบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป มีการชะลอการใช้เงินมากยิ่งขึ้น หรือจะเลือกซ้อสินค้าที่คุ้มคุ้มราคามากขึ้น โดยในส่วนของกล้อง ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย พบว่า ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง ขณะเดียวกัน ราคากล้องในปัจจุบันก็มีการปรับราคาลงด้วย ดังนั้น ถึงแม้ในแง่จำนวนอาจจะจำหน่ายได้มากขึ้น แต่ในแง่มูลค่ากลับไม่ค่อยเติบโต จึงทำให้ภาพรวมรายได้ปีนี้ มองว่า น่าจะเติบโตจากปีก่อนได้ประมาณ 15% ก็ถือว่าดีแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น