ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” ยังแข็งแรงดี เดินออกกำลังกายรอบวัดบ้านไร่ได้ บอก “ไม่ต้องเป็นห่วง ดอกกูยังไม่ตาย ยังฉันได้ เดินได้ แข็งแรงดี” เผย บ่ายวันนี้ ลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ นิมนต์หลวงพ่อไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช กรุงเทพฯ ยันเป็นการตรวจร่างกายตามปกติ เพื่อให้แพทย์ตรวจสมองหลังการผ่าตัดและการทำงานของหัวใจรวมถึงโรคเบาหวานซึ่งเป็นโรคประจำตัว
วันนี้ (17 พ.ย.) นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือ ไก่โต้ง เลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ตื่นจำวัดตั้งแต่เวลา 05.30 น. จากนั้นได้เดินออกกำลังกายบริเวณรอบวัดด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส และพูดหยอกล้อกับลูกศิษย์เหมือนเช่นทุกวัน ก่อนที่จะกลับเข้ามาฉันภัตตาหารเช้าภายในศาลาการเปรียญใต้พระอุโบสถวัดบ้านไร่ ก่อนที่จะกลับเข้าไปจำวัดพักผ่อน
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีข่าวลือว่าหลวงพ่อคูณ มรณภาพ ได้มีลูกศิษย์โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ลูกศิษย์ที่วัดบ้านไร่ต้องรับโทรศัพท์และตอบคำถามเรื่องนี้ตลอดทั้งวัน ฉะนั้น จึงขอยืนยันว่า จนถึงขณะนี้หลวงพ่อคูณ ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรงดี เดินออกกำลังกายได้ และฉันอาหารได้ปริมาณมาก คณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลด่านขุนทดก็มาตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกวัน บรรดาลูกศิษย์เองก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และหลวงพ่อคูณ ยังฝากบอกศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงดอก กูยังไม่ตาย ยังฉันได้ เดินได้ แข็งแรงดี มันยังไม่ถึงคราตายดอกลูกหลานเอ้ย...”
สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ (17 พ.ย.) คณะกรรมการวัดบ้านไร่และลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดจะนิมนต์หลวงพ่อคูณ เดินทางไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการตรวจร่างกายประจำปีตามปกติ โดยหลวงพ่อจะเดินทางโดยรถยนต์ตู้ โฟล์กสวาเก้น หมายเลขทะเบียน นข 1 นครราชสีมา ของวัดบ้านไร่ ซึ่งหลวงพ่อใช้อยู่เป็นประจำไปกับลูกศิษย์ประมาณ 5-6 คน
“ความจริงลูกศิษย์จะนิมนต์ให้หลวงพ่อคูณไปตรวจร่ายกายนานแล้ว แต่เนื่องจากที่ผ่านมาสุขภาพท่านไม่ค่อยแข็งแรงเกรงว่าจะเดินทางไกลไม่ไหวจึงรอให้ท่านแข็งแรงก่อน และวันนี้ ก็เป็นช่วงที่เหมาะสม จึงพาหลวงพ่อไปตรวจสุขภาพร่างกายให้เรียบร้อย และที่สำคัญที่ โรงพยาบาลศิริราชมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองซึ่งเคยผ่าตัดสมองของท่านและหลังจากผ่าตัดแล้วยังไม่เคยไปตรวจอีกเลย ฉะนั้น การไปพบแพทย์ครั้งนี้จะได้ตรวจสมองอย่างละเอียดและตรวจระบบการทำงานของหัวใจรวมถึงโรคเบาหวานที่เป็นโรคประจำตัวท่านด้วย” นายสมบูรณ์ กล่าว