พิจิตร – ชาวนาเมืองชาละวันครวญ หลังโครงการรับนำนำข้าวเปลือกต้องเลื่อนเป็นวันจันทร์ (3 พ.ย.) แทนเปิดโครงการเมื่อ 1 พ.ย. ทำให้ขนข้าวมารอเก้อ เจอโรงสีปิดป้ายยังไม่เริ่มโครงการ แถมถูกบีบขายต่ำกว่าราคารับจำนำกว่าครึ่ง ด้าน รมช.คลัง ยันจันทร์หน้าพร้อมแน่ เร่งประสานโรงสีให้ชาวนาตากข้าวฟรี
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวว่าจากกรณีที่รัฐบาลประกาศเปิดโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรปี 2551/2552 เริ่มเมื่อ 1 พ.ย. 2551 เป็นวันแรก โดยเฉพาะเรื่องข้าวเปลือกนั้นเกษตรกรต่างเร่งเก็บเกี่ยวมาแล้วแต่ไม่สามารถจำนำกับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวได้ตามที่รัฐบาลประกาศนั้น เนื่องจากเกิดปัญหา เพราะเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงต้องเลื่อนเป็นวันจันทร์ (3 พ.ย.) พร้อมกันทั่วประเทศแทน
โดยได้เร่งประสานงานกับ ธกส. โรงสี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบไปแล้ว 97,000 ล้านบาท มีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ให้กู้กับโครงการฯ คาดว่าจะน่าจะมีปัญหาอะไรกับโครงการรับจำนำข้าวในครั้งนี้
ซึ่งเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวมาแล้วนั้นคิดว่าคงมีส่วนน้อยไม่มากเท่าไร ถึงชาวนาเก็บเกี่ยวก็ไปจำนำได้ในวันจันทร์ ที่ยืนยันว่า ทุกอย่างจะพร้อมแน่นอน ในส่วนชาวนาของจังหวัดพิจิตรที่เก็บเกี่ยวข้าวมาแล้วได้ประสานไปยังชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตรแล้วว่าให้นำข้าวที่เกี่ยวข้าวไปตากได้ฟรีที่ลานตากของโรงสีแล้วในวันจันทร์จึงนำข้าวเข้าร่วมโครงการ
ด้านนางสุเนตร จันทร์มล อายุ 52 ปี ชาวนาตำบลวังโมกข์ อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ภายหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเพื่อมาเข้าคิวรอที่โรงสี ในการที่จะเข้าจำนำที่โรงสีตามที่รัฐบาลประกาศว่าจะเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ได้ตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นวันแรก แต่เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวมาแล้วต้องผิดหวังไม่สามารถจำนำข้าวเปลือกกับโรงสีทีเข้าโครงการได้ เนื่องจากโรงสีระบุว่าทางรัฐบาลยังติดปัญหาอยู่ยังไม่เรียบร้อยและให้รอมาจำนำได้ในวันจันทร์นี้
ทำให้ทุกข์หนักตกอยู่ที่ชาวนา เพราะข้าวเริ่มเก็บเกี่ยวได้ อีกทั้งในระยะนี้ที่พิจิตรมีฝนตกเกือบทุกวัน เกรงว่าถ้าไม่เร่งเก็บเกี่ยวจะทำให้ข้าวเสียหายและมีความชื้นสูง จึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเปิดโครงการรับจำนำข้าวโดยเร็ว
กรณีที่รัฐบาลประกาศให้เข้าโครงการรับจำนำข้าวได้ตั้งแต่ 1 พ.ย.นั้น ชาวนาส่วนใหญ่ที่ตั้งใจจะนำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำ แต่เอาเข้าจริง ต้องมาเจอโรงสีติดป้ายหยุดซื้อ แต่หากจำเป็นต้องขายก็ขายต้องขายทั้งน้ำตาในราคาที่ต่ำเพียงตันละประมาณ 6,100 – 6,900 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาต่ำกว่าที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ อีกทั้งถ้าต้องรอวันจันทร์ก็ต้องขนข้าวกลับไปอีกทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งไป-กลับ แล้วจะเหลืออะไร
