ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่องเที่ยวพัทยาไม่กระเตื้อง รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังแก้ไขวิกฤต หลังพบยอดนักเที่ยวหดกว่า 50%
วันนี้ (1 พ.ย.51) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเดอะกรีนพาร์ค รีสอร์ท สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหาร สมาชิก พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวลดลง เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจและการเมือง
นายจำรูญ วิศวชัยพันธ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่าหลัง จากที่มีปัญหาเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสภาวะทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะกรณีของการประกาศ พรบ.ภาวะฉุกเฉิน และความรุนแรงในช่วงปลายเดือนตุลาคม ทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาจะพยายามแก้ไขโดยการส่งจดหมายชี้แจงถึงมาตรการความปลอดภัยไปถึงสถานทูต สำนักงานการท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวต่างๆแต่ก็พบว่าจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเข้าฤดูกาลท่องเที่ยวแล้วแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้เพราะกลุ่มตลาดเป้าหมายของเมืองพัทยานั้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวแถบเอเชียมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ความปลอดภัยมาก และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปคาดว่าในฤดูการท่องเที่ยวนี้เมืองพัทยาจะมียอดการท่องเที่ยวตกลงไม่ต่ำกว่า 50 % และในปี 52 ก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น หากไม่มีมาตรการใดๆ มาแก้ไข
ด้านนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ประธานที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรายใหญ่ เปิดเผยว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นพบว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้พบว่าสถิติของนักท่องเที่ยวในการจับจองห้องพักหายไปกว่า 50-70 % โดยเฉพาะตลาดกลุ่มเอเชีย ขณะที่ช่วงเดียวกันในปีก่อนๆ นั้น ในพื้นที่เมืองพัทยาจะมีการจับจองห้องพักจนเต็มยาวไปจนถึงต้นปีต่อไป แต่ปีนี้จะมีก็เพียงการตอบตกลงเฉพาะในส่วนของลูกค้าที่จับห้องพักไว้ก่อนล่วงหน้าเท่านั้น ส่วนตลาดยุโรปและรัสเซียนั้นเงียบหายไปกว่าครึ่ง และไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นหากยังไม่มีมาตรการมากระตุ้นหรือแก้ ไข คาดว่าฤดูกาลท่องเที่ยวนี้คงจะมียอดนักท่องเที่ยวในภาพรวมเหลือเพียง 50-60 % เท่านั้น สิ่งสำคัญคือภาครัฐต้องให้ความสนใจและเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะจะหวังแต่เพียงให้ผู้ประกอบการช่วยเหลือตัวเองคงไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะทำการปรับลดราคาหรือเพิ่มโปรแกรมแพค กจการท่องเที่ยวใหม่ๆ ก็คงไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้มากนัก สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีปองดองกันในเรื่องการเมืองเพื่อให้ได้ข้อสรุปและยุติโดยเร็ว รวมทั้งชี้แจงสถานการณ์การท่องเที่ยวและความปลอดภัยออกไปสู่นานาประเทศ
รวมไปถึงประสานไปยังสายการบินต่างๆ ในการปรับลดอัตราราคาค่าตั๋วโดยสารในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะสายการบินแห่งชาติเนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังมีการปรับเพิ่มราคาค่าตั๋วโดยสารสูงขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ในช่วงที่มีการปรับภาวะราคาน้ำมันสูงขึ้นและแม้ว่าจะมีการปรับลดราคาน้ำมันลงแล้ว แต่อัตราค่าเดินทางของสายการบินเหล่านี้ก็ยังไม่มีการปรับลดลงตามมาแต่อย่างใด จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวลดน้อยลง
ขณะที่นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย สมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิ การการท่องเที่ยวและกีฬาสภาเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้พยายามหาหนทางแนวทางการแก้ไขและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง หลังเจอกับภาวะวิกฤตทางการท่องเที่ยว โดยปัจจุบันได้ร่วมกับหลายหน่วยงานพยายามสนับสนุนงบประมาณและจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ ในเดือนพฤศจิกายนได้กำหนดจัดงานลอยกระทง งานแสดงพันธุ์โคภาคตะวันออก งานบอลลูนนานาชาติ การแข่งขันวินด์เซิร์ฟ หรืองานแข่งขันกอล์ฟ LPGA ทัวร์ งานเคาท์ดาวน์ หรืองานขับขี่เพื่อสันติภาพในปี 52 รวมทั้งการประสานงานไปยังสื่อในการนำเสนอข่าวทางบวกของเมืองพัทยาออกสู่สาธารณชน ซึ่งคงจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
ทางด้านนางพัชรรินทร์ เศวตรัตน์ ผช.ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันทาง ททท.พยายามหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ โดยในส่วนของการทำตลาดนั้นขณะนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเมืองพัทยาจำนวน 6 ล้านบาท ขณะที่ ททท.ส่วนกลางให้อีก 3 ล้านบาท และ อบจ.ชลบุรี อีกส่วนหนึ่ง โดยจะมีการจัดกิจกรรมการร่วมงานส่งเสริมการตลาดต่างประเทศ และทำโฆษณา ในงบประมาณจำนวน 18.5 ล้านบาท ได้แก่ การร่วมงาน ITB ที่ประเทศเยอรมัน ในเดือนมีนาคม งาน ATF ที่เวียดนาม ในเดือนมกราคมงาน ATM ที่ประเทศดูไบ ในเดือนพฤษภาคม งาน AET/MET ในประเทศอินเดีย และงาน Leisure ในประเทศรัสเซีย กลางเดือนกันยายน ขณะที่การทำโฆษณาในต่างประเทศนั้นได้ร่วมสำนักงาน ททท.ในประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และรัสเซีย จัดทำโฆษณาเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในประเทศนั้น สำหรับตลาดภายในได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 6 ล้านบาท ในการลงประชาสัมพันธ์ในนิตยสาร ปริ้นท์แอด เรดิโอสปอต และเวปไซด์ โดยตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นตลาดครอบครัว และกลุ่มวัยรุ่นเป็นสำคัญ
นางพัชรรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในด้านอื่นๆนั้น ทาง ททท.ก็ได้ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน และการบินไทย ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยจัด Package การท่องเที่ยวในราคาพิเศษในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งตั้งเป้าหมายไปที่ตลาดคุณภาพใน 6 หัวเมืองหลัก ได้แก่ ปักกิ่ง,เซี่ยงไฮ้,เฉิงตู,กว่างโจว,คุนหมิง และเซียะเหมิน รวมถึงการจัดทำคู่มือการท่องเที่ยวใหม่ ร่วมกับ Master Card คือหนังสือ Amazing Pattaya ในภาษามาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลี เป็นต้น รวมถึงการร่วมกับชมรมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมในงาน Chonburi Travel Fair ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พัทยา ในระหว่างวันที่ 19-21 ธันวาคมนี้
ส่วนตลาดภายในประเทศในภาพรวมนั้นก็ได้จัดกิจกรรม “เที่ยวไทยคึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” โดยในส่วนของรูปแบบกิจกรรมของโครงการฯ ได้มีการรวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งหมดที่มีนับร้อยโครงการมานำเสนอภายใต้ชื่อ “ร้อยแปดพันเก้า ภารกิจเที่ยว” เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกในการท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยชูกิจกรรมท่องเที่ยว 5 ภารกิจหลักที่คาดว่าจะดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย
ประกอบด้วย “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระ ทง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ยกระดับงานประเพณีลอยกระทงของไทยให้เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) โครงการ “100 หมู่บ้านอีสานน่าเที่ยว” เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวสู่ภาคตะ วันออกเฉียงเหนือให้สอดรับกับ “ปีการท่องเที่ยวอีสาน 2551-2553” ต่อด้วยภารกิจ “งานราชพฤกษ์ รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง” มหกรรมการแสดงพืชพรรณไม้กลางแจ้งที่ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในช่วง 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อ และเพื่อเปิดสวนเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 อย่างเป็นทางการ ในเดือนธันวาคม ณ สวนราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ โครงการ “เปิดโลกเมืองสุพรรณ มหัศจรรย์สุขหรรษา” ซึ่งสุพรรณบุรีถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของไทย การจัดโครงการนี้ก็เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายและมีความหลากหลาย และภารกิจสุดท้าย คือ “อะเมซิ่ง ฟัน กอล์ฟ” (Amazing Fun Golf)
อีกหนึ่งกิจกรรมการท่อง เที่ยวที่มีกีฬากอล์ฟเป็นสื่อ มุ่งนำเสนอสนามกอล์ฟมาตรฐานระดับโลกในแต่ละภูมิภาคที่เหมาะสำหรับการเล่นกอล์ฟของนักกอล์ฟและผู้ติดตาม โดยหวังว่าจากแคมเปญ “เที่ยวไทยคึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” จะช่วยให้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศสามารถขยายตัวตามเป้าหมาย 5% ตามที่ตั้งไว้ที่ 87 ล้านคน เกิดรายได้ให้กับประเทศได้มากถึง 3.88 แสนล้านบาท ทั้งยังมุ่งหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบสนองจากนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคน โดยหวังให้ทุกคนต่างตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ไปยังคนไทยในชุมชนท้องถิ่นตามแหล่งท่อง เที่ยวต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน



