ททท.เปิดแคมเปญใหม่ปลุกกระแส “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” มุ่งสร้างคุณค่าการท่องเที่ยวในมิติใหม่ หวังกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศให้โต 5% ตามเป้า
จุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เปิดตัวโครงการ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” มุ่งสร้างคุณค่ามิติใหม่ของการท่องเที่ยวให้คนไทยเกิดความภูมิใจที่ได้ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งเร่งกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศให้โต 5% ตามเป้า พร้อมทั้ง
เปิดตัวเพลง "เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก" ที่มีจังหวะสนุกสนานโดยศิลปินชื่อดัง "โปงลางสะออน"
รองผู้ว่าการ ททท. ยังได้กล่าวอีกว่า “เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีท่องเที่ยวไทย และกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบจากสภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ททท.ได้จัดทำแคมเปญใหม่ ภายใต้แนวคิด “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ที่มุ่งส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น”
สำหรับโครงการเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ททท. มุ่งเน้นไปที่การสร้างมิติใหม่แห่งคุณค่าของ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยทำให้ประชาชนตระหนักถึงประโยชน์ของการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ให้ความสุข สนุกสนาน และได้เรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่ๆ เท่านั้น หากยังก่อให้เกิดคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ และยังสร้างความภาคภูมิใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคนที่ได้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนในประเทศ และช่วยให้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้ขับเคลื่อน ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและบรรยากาศของประเทศโดยรวม
ในส่วนของรูปแบบกิจกรรมของโครงการฯ ได้มีการรวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งหมดที่มีนับร้อยโครงการมานำเสนอ ภายใต้ชื่อ “ร้อยแปดพันเก้า ภารกิจเที่ยว” เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกในการท่องเที่ยวที่หลากหลายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง ททท.เล็งเห็นว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวให้สามารถเลือกภารกิจเที่ยวที่เหมาะกับความสนใจของตนและตัดสินใจท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น โดยชูกิจกรรมท่องเที่ยว 5 ภารกิจหลักที่คาดว่าจะดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย ประกอบด้วย
ภารกิจแรกได้แก่ “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ยกระดับงานประเพณีลอยกระทงของไทยให้เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน โดยจัดให้มีกิจกรรมเด่นในหลายพื้นที่ อาทิ งานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก ประเพณีลอยกระทงกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเทศกาลโคมไฟ...สีสันเมืองใต้ จังหวัดสงขลา
ภารกิจต่อมาคือ “100 หมู่บ้านอีสานน่าเที่ยว” เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ สอดรับกับ “ปีการท่องเที่ยวอีสาน 2551-2553” เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภูมิภาคนี้และ เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยการคัดเลือก “100 หมู่บ้านอีสานน่าเที่ยว” นำเสนอหมู่บ้านที่มีเรื่องราว เอกลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี สินค้าท้องถิ่น ตลอดจนวัฒนธรรมที่โดดเด่น รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการท่องเที่ยวใหม่ๆ แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย
ต่อด้วยภารกิจ “งานราชพฤกษ์ รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง” มหกรรมการแสดงพืชพรรณไม้กลางแจ้งที่ ททท.ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในช่วง 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อ และเพื่อเปิดสวนเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 อย่างเป็นทางการ โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 1-10 ธันวาคม 2551 ณ สวนราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ พบกับพันธุ์ไม้ดอก และพืชพรรณต่างๆ ที่มีความสวยงาม แปลกใหม่ และหาชมได้ยากหลากหลายชนิด พร้อมกับเพลิดเพลินกับการแสดงหลากหลายยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ อาทิ การแสดงดนตรี และนาฏศิลป์ 4 ภาค การแสดงดนตรีลูกทุ่ง การแสดงโขนไทยชุดใหญ่ และการแสดงดนตรีแจ๊สบทเพลงพระราชนิพนธ์ ตั้งแต่เวลา 18.00–22.00น.
ภารกิจถัดไปได้แก่ “เปิดโลกเมืองสุพรรณ มหัศจรรย์สุขหรรษา” ซึ่งสุพรรณบุรีถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของไทย การจัดโครงการนี้ก็เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายและมีความหลากหลาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และธรรมชาติที่สวยงาม น่ารื่นรมย์ นอกจากนี้ยังจะได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ คือ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี โดยก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539
และภารกิจสุดท้าย คือ “อะเมซิ่ง ฟัน กอล์ฟ” (Amazing Fun Golf) อีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยว ที่มีกีฬากอล์ฟเป็นสื่อ มุ่งนำเสนอสนามกอล์ฟมาตรฐานระดับโลกในแต่ละภูมิภาค และความสวยงามของภูมิทัศน์โดยรอบที่เหมาะสำหรับการเล่นกอล์ฟของนักกอล์ฟ และผู้ติดตาม รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนของครอบครัว ซึ่งสามารถจัดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงสำหรับสมาชิกในครอบครัวนักกอล์ฟ ด้วยการจัด ทำคู่มือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก รวมถึงร้านอาหาร After Par เพื่อให้เกิดประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างครบวงจร และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
ภายใต้โครงการนี้ ททท. ยังได้จัดให้มีการแข่งขันกอล์ฟ TAT Amazing Fun Golf 2008 ทัวร์นาเมนท์การแข่งขันกอล์ฟรูปแบบใหม่ที่จัดขึ้นในสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส 6 สนามทั่วประเทศ โดยทัวร์นาเม้นท์สุดท้ายจะจัดในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2551 ณ สนามสันติบุรี จังหวัดเชียงราย และผู้ชนะเลิศในแต่ละไฟล้ท์ มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน ณ อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท กรุงเทพฯ ในเดือนธันวาคม 2551 เพื่อชิงรางวัลมากมายอีกด้วย
ขณะเดียวกันเพื่อตอกย้ำเพิ่มแรงกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยว ททท. ยังวางแผนจัดแพกเกจท่องเที่ยวตามรอยเซเลบริตี้ โดยมุ่งให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวตามรอยคนดังที่ชื่นชอบในกลุ่มนักท่องเที่ยว อาทิ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ สำหรับกลุ่มครอบครัว และคนทำงาน ส่วนในกลุ่มวัยรุ่น และนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดจะผูกเข้ากับกลุ่มศิลปินวงโปงลางสะออน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีคนดังจากแวดวงอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในครั้งนี้ด้วย
รองผู้ว่าการ ททท. เผยถึงความคาดหวังจากแคมเปญ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ว่า จะช่วยให้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศสามารถขยายตัวตามเป้าหมาย 5% ตามที่ตั้งไว้ที่ 87 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้ให้กับประเทศได้มากถึง 3.88 แสนล้านบาท ทั้งยังมุ่งหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบสนองจากนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคน ต่างตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ไปยังคนไทยในชุมชนท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน