อุบลราชธานี - กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแหล่งตากอากาศ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โวยรัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายกลับมาเหมือนเดิม เพราะมีผลต่อการจ้างแรงงาน หากรายรับผู้ประกอบการลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจำหน่ายสินค้าที่แก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมอันดับ 2 รองจากด่านชายแดนไทย-ลาวช่องเม็ก อ.สิรินธร โดยกลุ่มผู้จำหน่ายของฝากที่เป็นของกิน อาทิ หนังกบทอดกรอบ ปลานาง ปลาแก้วตากแห้ง ที่เป็นผลิตผลตามธรรมชาติจากแม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง มีราคาขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 50-150 บาท
นอกจากนี้ยังมีขนมทอดกรอบ เช่น กล้วยตาก ฟักทองทอด มันทอด ถั่วตัด ซึ่งเป็นสินค้าจากชุมชนที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยขายเฉลี่ยขีดละ 10-15 บาท รวมทั้งสิ้นค้าของที่ระลึก ซึ่งผลิตจากกลุ่มแม่บ้านในท้องถิ่นอาทิ เสื้อผ้าฝ้าย ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ พวงกุญแจทำจากกระบวนตักน้ำจิ๋ว อดีตมียอดจำหน่ายหลังเทศกาลออกพรรษาวันละนับหมื่นบาท แต่ปัจจุบันยอดการจำหน่ายลดลงอย่างเหลือเพียงวันละ 1,000-3,000 บาท
สำหรับสาเหตุทำให้ยอดการจำหน่ายลดลงผู้ค้าระบุว่า ปัจจัยหลักน่าจะมาจากความตื่นตะหนกจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทำให้คนประหยัดการใช้จ่าย เพราะช่วงน้ำมันมีราคาแพง แม้มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวน้อยลง แต่ก็ยังมีการใช้จ่ายเงินซื้อของฝากกลับไปครั้งละมากๆ
ตรงกันข้าม ขณะนี้น้ำมันมีราคาลดลงเป็นลำดับ และอยู่ช่วงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเริ่มเข้าสู่ไฮซีซั่นของฤดูการท่องเที่ยว แต่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวซื้อสินค้าน้อยกว่าทุกปี นอกจากคนกลัวความถดถอยของเศรษฐกิจโลก ยังมีปัจจัยได้รับผลกระทบจากภาวะความอ่อนไหวทางการเมืองทั้งในและนอกประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวพากันรัดเข็มขัดงดการท่องเที่ยว
การแก้ปัญหา คือ รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนทางการเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนภายทั้งในและนอกประเทศ จะได้กลับมาใช้จ่ายเงินกันตามปกติ หากรัฐบาลปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเป็นลูกโซ่ ทำให้ภาคธุรกิจทั้งหมดเกิดความถดถอย มีผลให้ผู้ประกอบการลดการจ้างแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนตามมาด้วย