กาฬสินธุ์ - ผลจากการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเพิ่มผลผลิตและเป็นพืชทดแทนพลังงาน โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมี พบว่าได้เพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกรมากถึง 500%
ที่แปลงปลูกมันสำปะหลังบ้านปลาขาว หมู่ 6 ตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงติดตามผลการเก็บผลผลิตมันสำปะหลังของกลุ่มวิสาหกิจปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายจิรวัฒน์ โลหะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. และหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนร่วมติดตามดูการเก็บผลผลิตเป็นจำนวนมาก
นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด ที่เน้นเดินตามรอยพระยุคลบาทเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง ที่เคยใช้ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงและผลผลิตตกต่ำ จากการใช้ปุ๋ยเคมีที่ทำให้สภาพดินทรุดโทรม จึงได้มอบนโยบายให้สำนักงานเกษตรจังหวัด ธ.ก.ส.สนับสนุนเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง เพื่อเพิ่มผลผลิตและใช้เป็นพืชพลังงานทดแทนในอนาคต โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั่วจังหวัดจำนวน 80 ราย
ด้าน นายจิรวัฒน์ โลหะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า จากการส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง โดยนำร่องที่บ้านปลาขาว ซึ่งเป็นเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังจำนวน 6 ราย ที่ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกมันสำปะหลัง โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โดย ธ.ก.ส.จัดงบสนับสนุนเพื่อใช้ในการลงทุนจำนวน 3 แสนบาท จากนั้นพาไปศึกษาดูการผลิตมันมำปะหลังที่ประสบผลสำเร็จที่ไร่แม่เงิน ต.โปร่งนก อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ ก่อนนำหลักการการปลูกและการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาใช้อย่างได้ผล
แต่เติมที่ใช้ปุ๋ยเคมีได้ผลผลิตไร่ละ 3 ตัน หลังจากหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพได้ผลผลิตถึงไร่ละ 15 ตัน หรือได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นถึง 500% โดยคาดว่าอนาคตจะมีเกษตรกรมาร่วมโครงการผลิตมันสำปะหลัง โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพเป็นจำนวนมาก และมันสำปะหลังจะกลับมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมปลูกกันมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ประกันราคาให้ถึงกิโลกรัมละ 1.80 บาท