ลำปาง – พบ “เหยื่อแก๊สน้ำตา” วัน 7 ตุลาเลือด-ตำรวจฆ่า ปชช.ทรุดหนัก หลังได้รับแก๊สพิษเมื่อคราวสลายการชุมนุมฯ แพทย์ระบุเป็นอาการข้างเคียงจากแก๊สจริง เร่งหาตัวยารักษา ยอมรับแพทย์ไทยยังไม่ชำนาญกับการรักษาพิษจากแก๊สตัวนี้ เตือน พธม.-เหยื่อแก๊สน้ำตา หากเกิดอาการข้างเคียงรีบพบแพทย์ด่วน-ห้ามซื้อยากินเอง
หลังจากเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธร้ายแรง รวมทั้งแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระหน่ำยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนั้น
1 ในจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมคือนายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือและจังหวัดลำปาง ซึ่งในวันดังกล่าวถูกยิงด้วยแก๊สน้ำตาด้วยเช่นกัน แพทย์ต้องใช้น้ำเปล่า น้ำเกลือในการล้างหน้า ตา และบ้วนปาก หลังจากอาการดีขึ้นและเหตุการณ์สงบลง ก็ได้เดินทางกลับจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา
แต่ปรากฏว่า นายสมโชค มีการไข้ขึ้นสูง สะอึกอย่างต่อเนื่อง อ่อนเพลีย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเขลางค์นครราม จังหวัดลำปาง กระทั่งอาการดีขึ้นจึงได้เดินทางไปยังจังหวัดสุราษฎ์ธานี เมื่อไปถึงจังหวัดสุราษฎ์ธานี อาการกลับหนักขึ้น ญาติจึงนำตัวเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลไทยอินเตอร์เนชั่นแนล โดยมีนายแพทย์นิกร กุยรัตน์ เป็นแพทย์ผู้รักษา
ทันทีที่นำตัวเข้ารักษาแพทย์ต้องตัดสินใจฉีดยากระตุ้น เนื่องจากผู้ป่วย ความดันต่ำมาก ไข้สูง หายใจขัด และช็อค หลังจากนั้นหนึ่งวันอาการจึงค่อยดีขึ้นและส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯต่อไป
นายแพทย์นิกร กล่าวว่า หลังจากทราบประวัติผู้ป่วยซึ่งได้รับแก๊สน้ำตา เป็นไปได้ว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับแก๊สน้ำตา ซึ่งจะซึมเข้าในร่างกาย เพราะจากการตรวจ พบว่าระบบหายใจ อาทิ ลำคอ หลอดลม เป็นแผลไหม้ ทำให้เกิดอาการอักเสบ มีเชื้อโรคแทรกซ้อนและเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งต้องรีบรักษาโดยเร็ว
นายแพทย์บุญจง ชูชัยแสงรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลเขลางค์นครราม กล่าวว่า หลังจากมีการส่งตัวนายสมโชค จากโรงพยาบาลไทยอินเตอร์ ต่อไปยังโรงพยาบาลจุฬา แล้ว แพทย์หลายคนได้ช่วยกันตรวจ อาทิ นายแพทย์ตุน สิทธิวงศ์ ,นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์วัฒนา ต่างก็ลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า อาการที่พบน่าจะเกิดจากอาการข้างเคียงที่โดนแก๊สน้ำตา แต่ต้องยอมรับว่าแพทย์ไทยยังไม่มีความชำนาญในเรื่องการรักษาสารพิษที่มากับแก๊สน้ำตาตัวดังกล่าว ต้องหาข้อมูลในการรักษาจากอินเทอร์เน็ต
นายแพทย์บุญจง กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้มากที่ผู้ชุมนุมที่ได้รับแก๊สน้ำตาในวันนั้น อาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ และอาจจะไปทำการรักษาด้วยตนเอง จึงอยากฝากไปยังประชาชนที่ได้รับแก๊สน้ำตาในวันดังกล่าวว่า หากเกิดอาการเบื้องต้น คือ คล้ายเป็นไข้ ไข้สูง สะอึกต่อเนื่อง หายใจติดขัด อ่อนเพลีย เจ็บคอ ขอให้รับไปให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด และโดยเร็ว อย่าหาซื้อยาทานเอง เพราะเมื่ออาการกำเริบขึ้นอาจเสียชีวิต เพราะคนไข้อาจจะ ช็อคได้ ซึ่งหากเป็นไปได้ขอให้ประสานงานไปยังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อจะได้ช่วยเหลือในการักษาพยาบาลได้
ส่วนนายสมโชค ล่าสุดได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขลางค์นครราม แพทย์ต้องฉีดยา ให้น้ำเกลือ -เอ็กซเรย์สมอง และให้รอดูอาการอีกระยะเพื่อความแน่ใจ โดยเบื้องต้นได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนผู้ป่วยของพันธมิตรฯ เป็นเงินจำนวน 4 หมื่นบาท รวมถึงการประสานงาน ในการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี