ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้บริหารทีโอทีเชียงใหม่แจงพนักงานร่วม 500 คน ในพื้นที่ไม่เกี่ยวมือตบ-โห่ไล่ “สมชาย” จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนคากระทรวง ICT หลังวิทยุชุมชนเชียงใหม่ “ทาสแม้ว” เดือดแทน ออกอากาศปลุกระดมขู่ทำร้ายคน-ทำลายทรัพย์สินทีโอทีตอบโต้
จากกรณีที่วานนี้ (22 ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แล้วถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 300-400 คน ตะโกนโห่ไล่และใช้มือตบ รวมทั้งมีการใช้ขวดน้ำและรองเท้าขว้างปาใส่นายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งมีการระบุว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นปรากฏว่าสถานีวิทยุชุมชนคลื่นความถี่ 92.5 เมกกะเฮิร์ต ที่ออกอากาศจากโรงแรมแกรนด์วโรรส ในตัวเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่เคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล รวมทั้งพรรคพลังประชาชน มาโดยตลอด ได้มีการออกอากาศปลุกระดมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการเปิดให้ประชาชนโทรศัพท์เข้าไปแสดงความคิดเห็นโดยมุ่งเป้าโจมตีตรงไปที่บริษัท ทีโอที จำจัด (มหาชน) เป็นหลัก ซึ่งผู้ที่โทรศัพท์เข้าไปบางส่วนมีการปลุกระดมเชิญชวนให้ตอบโต้ด้วยการทำลายทรัพย์สิน เช่น ตู้โทรศัพท์ รถยนต์ และทำร้ายพนักงาน ของบริษัท ทีโอที ในจังหวัดเชียงใหม่
ด้าน นายดำเนิน บุญญะโสภัต ผู้จัดการส่วนบริการลูกค้าจังหวัดเชียงใหม่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารวานนี้ (22 ต.ค.) พบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีการแสดงปฏิกิริยาโกรธแค้นเกิดขึ้น เห็นได้จากการที่มีการโทรศัพท์เข้าไปแสดงความคิดเห็นในสถานีวิทยุชุมชนบางแห่ง โดยที่บางรายมีการปลุกระดมเชิญชวนให้ทำร้ายพนักงานและทำลายทรัพย์สินของบริษัทฯ ด้วย ซึ่งน่าเป็นสิ่งที่น่าห่วงกังวลอย่างยิ่ง และไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นจริงในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพนักงานของบริษัทฯ ที่ประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ 400-500 คนแต่อย่างใด โดยการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ใช่บริษัทฯ และคนที่ร่วมกระทำการดังกล่าวก็ไม่น่าจะเป็นพนักงานของบริษัทฯ ทั้งหมด เพราะพื้นที่ดังกล่าวคนทั่วไปก็สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นจึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่กำลังรู้สึกไม่ดีกับบริษัทฯ ในจังหวัดเชียงใหม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และอย่าได้กระทำสิ่งใดที่อาจจะเกิดความเสียหายตามมาได้
“คนของบริษัทฯ ที่อยู่ที่เชียงใหม่ 400-500 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นเลย ที่สำคัญคนของบริษัทฯ ที่อยู่ที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานคนเชียงใหม่ทั้งนั้น ดังนั้นจึงอยากจะทำความเข้าใจและไม่อยากให้มีเรื่องร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้นเนื่องจากความเข้าใจผิดกัน” นายดำเนิน กล่าว
จากกรณีที่วานนี้ (22 ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แล้วถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 300-400 คน ตะโกนโห่ไล่และใช้มือตบ รวมทั้งมีการใช้ขวดน้ำและรองเท้าขว้างปาใส่นายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งมีการระบุว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นปรากฏว่าสถานีวิทยุชุมชนคลื่นความถี่ 92.5 เมกกะเฮิร์ต ที่ออกอากาศจากโรงแรมแกรนด์วโรรส ในตัวเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่เคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล รวมทั้งพรรคพลังประชาชน มาโดยตลอด ได้มีการออกอากาศปลุกระดมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการเปิดให้ประชาชนโทรศัพท์เข้าไปแสดงความคิดเห็นโดยมุ่งเป้าโจมตีตรงไปที่บริษัท ทีโอที จำจัด (มหาชน) เป็นหลัก ซึ่งผู้ที่โทรศัพท์เข้าไปบางส่วนมีการปลุกระดมเชิญชวนให้ตอบโต้ด้วยการทำลายทรัพย์สิน เช่น ตู้โทรศัพท์ รถยนต์ และทำร้ายพนักงาน ของบริษัท ทีโอที ในจังหวัดเชียงใหม่
ด้าน นายดำเนิน บุญญะโสภัต ผู้จัดการส่วนบริการลูกค้าจังหวัดเชียงใหม่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารวานนี้ (22 ต.ค.) พบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีการแสดงปฏิกิริยาโกรธแค้นเกิดขึ้น เห็นได้จากการที่มีการโทรศัพท์เข้าไปแสดงความคิดเห็นในสถานีวิทยุชุมชนบางแห่ง โดยที่บางรายมีการปลุกระดมเชิญชวนให้ทำร้ายพนักงานและทำลายทรัพย์สินของบริษัทฯ ด้วย ซึ่งน่าเป็นสิ่งที่น่าห่วงกังวลอย่างยิ่ง และไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นจริงในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพนักงานของบริษัทฯ ที่ประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ 400-500 คนแต่อย่างใด โดยการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ใช่บริษัทฯ และคนที่ร่วมกระทำการดังกล่าวก็ไม่น่าจะเป็นพนักงานของบริษัทฯ ทั้งหมด เพราะพื้นที่ดังกล่าวคนทั่วไปก็สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นจึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่กำลังรู้สึกไม่ดีกับบริษัทฯ ในจังหวัดเชียงใหม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และอย่าได้กระทำสิ่งใดที่อาจจะเกิดความเสียหายตามมาได้
“คนของบริษัทฯ ที่อยู่ที่เชียงใหม่ 400-500 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นเลย ที่สำคัญคนของบริษัทฯ ที่อยู่ที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานคนเชียงใหม่ทั้งนั้น ดังนั้นจึงอยากจะทำความเข้าใจและไม่อยากให้มีเรื่องร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้นเนื่องจากความเข้าใจผิดกัน” นายดำเนิน กล่าว
