บุรีรัมย์ - นักวิชาการและอดีตประธานพีเน็ตบุรีรัมย์ ชี้ ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายคัดค้าน ทวีความรุนแรงขึ้น และการเมืองไทยวิกฤต เข้าสู่ทางตัน หลังศาลตัดสินคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ สั่งจำคุก “ทักษิณ” 2 ปี เชื่อรัฐบาลยื้อไม่ยุบสภา หรือลาออก แต่เดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3 เข้าไปแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง
วันนี้ (22 ต.ค.) นายนิรันดร์ กุลฑานันท์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และอดีตประธานพีเน็ต จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตัดสินคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ สั่งจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 ปี เป็นการส่งสัญญาณว่าการเมืองจะเกิดความร้อนแรงเพิ่มขึ้น ต่างฝ่ายต่างมุ่งที่จะเอาชนะซึ่งกันและกันทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาลจนลืมที่จะแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง และจะมีการกดดันทำเพื่อตนเอง สังคมจะแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย
ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะกดดันให้รัฐบาลยุบสภา หรือลาออก เพื่อจะนำไปสู่การเมืองใหม่ ขณะที่รัฐบาลก็เกรงว่าจะเสียเปรียบทางการเมืองก็จะยื้อไม่ยุบสภาหรือลาออกยิ่งจะเดินหน้าผลักดันให้เกิดสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3 หรือ ส.ส.ร.3 ให้ได้ เพื่อที่จะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้มา เพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางการเมือง
นายนิรันดร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้การเมืองไทยได้เข้าสู่ทางตันไปแล้ว เพราะยังไม่มีผู้ใหญ่หรือใครที่น่าเชื่อถือเข้ามาเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองปัจจุบันได้ และการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถลดอุณหภูมิการเมืองได้แต่ยิ่งจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งหนักมากขึ้น
“วันนี้แม้แต่นักวิชาการและหลายกลุ่มองค์กรที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็ไม่มีใครสามารถวิเคราะห์ได้ถูกว่า อนาคตทิศทางการเมืองไทยจะเดินไปในทิศทางใดเช่นกัน” นายนิรันดร์ กล่าว