ศูนย์ข่าวศรีราชา- การเมืองท้องถิ่นสัตหีบกระแสแรง แบ่งขั้วสีชัดเจน ผู้สมัครสมาชิกเทศบาลตำบลสัตหีบแชมป์เก่า เจอไม้เด็ดเขตเลือกตั้งที่ 1 ทหารและครอบครัวพลังสีเหลืองจงรักภักดี สั่งสอนเชือดนิ่มสีแดง ครวญเพียงใส่เสื้อสีแดงถ่ายรูปติดป้ายหาเสียงยังเจอบอยคอต มีคนเตือนแล้วไม่เชื่อฟัง
วันนี้ (22 ต.ค.) ได้มีเสียงลือกันกระฉ่อน จนเป็นกระแสที่น่าจับตามองในเวทีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ เพราะได้มีประชาชนในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จับกลุ่มคุยกันเรื่องของผลการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลสัตหีบ และสมาชิกเทศบาลตำบลสัตหีบที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2551 ว่า ประชาชนมีการแบ่งสีกันอย่างชัดเจน วัดได้จากผลการเลือกตั้งผู้สมัครสมาชิกเขตเลือกตั้งที่ 1 กลุ่มคนรักสัตหีบ โดยมี นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตนายก จำนวน 6 คน พลิกความคาดหมายสอบตกหมดทุกคน ทั้งที่มีฐานเสียงเก่า มีผลงานจำนวนมาก แต่ไม่สามารถสู้ผู้สมัครหน้าใหม่ทั้ง 6 คน ของกลุ่มสัตหีบยุคใหม่ โดยมี นางณัฐชา บันดิษฐศิลป์ อดีตกำนันหญิงสัตหีบ เป็นหัวหน้ากลุ่ม
จากการตรวจสอบผลการรวมคะแนนเลือกจาก นายเพ่ง บัวหอม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลสัตหีบ นายชำนิ ฝอยหิรัญ ประธานกรรมการเลือกตั้ง และ นายกำชัย ตั้งธรรมสถิต นายนพดล จำเริญพานิช และ นายวีระ ศุภจิตธนานันท์ กรรมการการเลือกตั้ง พบว่า นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลสัตหีบ หัวหน้ากลุ่มคนรักสัตหีบ ได้คะแนน 5,878 คะแนน
ส่วน นางณัฐชา บันดิษฐศิลป์ หัวหน้ากลุ่มสัตหีบยุคใหม่ ได้เพียง 5,056 คะแนน และที่น่าตกใจ ก็คือ ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสัตหีบ เขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ในเขตบ้านพักของข้าราชการ สังกัดกองเรือยุทธการ และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หมู่ที่ 2 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ พลิกความคาดหมายต่อเมื่อ ผู้สมัครจำนวน 6 คน ของกลุ่มฅนรักสัตหีบ ซึ่งเป็นขั้วการเมืองเก่าพ่ายแพ้ผู้สมัครใหม่อย่างขาดลอยทั้ง 6 คน ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ผู้สมัครกลุ่มคนรักสัตหีบ เข้าไปได้เพียง 5 คนเท่านั้น
นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา หัวหน้ากลุ่มตนรักสัตหีบ กล่าวว่า ยอมรับว่าเสียใจอย่างมากที่สมาชิกทั้งหมด 2 เขต จำนวน 12 คน สอบผ่านเพียง 5 คน เท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วไม่น่าเป็นไปได้ผู้สมัครทุกคนมีดีกรีผลงานเก่า มีฐานเสียงแน่นมาก โดยเฉพาะในเขตทหารทุกแห่ง ที่น่าตกใจมากที่สุด ก็คือ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 สอบตกยกทีม พ่ายแพ้ผู้สมัครหน้าใหม่ ซึ่งกระแสที่ออกมารุนแรงมากๆ ก็คือ เรื่องของผู้สมัครใส่เสื้อสีแดงถ่ายรูปติดป้ายแนะนำตัวไว้ริมถนนสุขุมวิทถึง 2 แห่ง ต้องยอมรับว่าพลาด ลืมคิดไปว่า ขณะนี้ สีแดง กับ สีเหลือง เป็นสีแห่งความขัดแย้งในระดับเวทีโลกบอกตรงๆ ว่า ขาดความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้ ทั้งที่มีผู้ใหญ่ และคนรู้จักเตือนมาโดยตลอด แม้แต่แนะนำไม่ให้ใส่เสื้อสีแดงออกหาเสียง ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วไม่สามารถแก้ไขอะไรได้นอกเสียจากจะเก็บไว้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต
พร้อมเปิดเผยอีกว่า เขตเลือกตั้งที่ 2 อยู่ในเขตค่ายทหาร บ้านพักข้าราชการ ผู้มีสิทธิเลือกส่วนมากเป็นข้าราชการ ครอบครัว พลทหาร อาจเป็นไปได้ที่สีแดงส่งผลร้ายต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้สอบตกยกเขต เพราะชาวสัตหีบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นสายเลือดทหารเรือ ชื่นชมสีเหลือง มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พอเห็นผู้สมัครทั้งที่รู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดีใส่เสื้อสีแดง ยังโดนกระแสเงียบเสื้อสีเหลืองบอยคอตไม่เลือกคนใส่เสื้อสีแดง จะจดจำไว้จนวันตายอย่าทวนกระแสสังคม และกระแสศรัทธาจากประชาชนเด็ดขาด