สุรินทร์ - เหตุปะทะเดือดชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ และชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดตลอดแนวอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดชายแดน “โอร์เสม็ด” ฝั่งกัมพูชา ตรงข้ามด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ กลายเป็นตลาดร้าง พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาผวาภัยสงครามปิดร้านขนสินค้าสิ่งของต่างๆ อพยพ เข้าไปอยู่ในพื้นที่ชั้นในของประเทศ ขณะที่บ่อนกาสิโน 2 แห่งเงียบเหงานักพนันบางตา
วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บหลายนายและทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย เมื่อบ่ายวานนี้ นั้น ส่งผลให้ตลาดชายแดนโอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ตรงข้ามด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ขณะนี้ได้กลายเป็นตลาดร้างไปโดยปริยาย เพราะบรรดาพ่อค้าแม่ชาวกัมพูชาหวาดผวาต่อการสู้รบดังกล่าว พากันปิดร้านค้าและขนสินค้า สิ่งของต่างๆ ขึ้นรถบรรทุกกลับเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในของ จ.อุดรมีชัยหรือกลับบ้านเกิดที่กรุงพนมเปญและจังหวัดต่างๆ กันเกือบหมดแล้ว จะเหลือแม่ค้าบางรายก็อยู่ระหว่างการเก็บของสินค้าเพื่อเตรียมอพยพเข้าไปเช่นกัน
พ่อค้ากัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า ช่วงนี้ลำบากมากขายสินค้าไม่ได้เลย ไม่มีชาวไทยและนักท่องเที่ยวเข้ามาที่ตลาดโอร์เสม็ดเลย และได้รับแจ้งจากทหารกัมพูชา ให้รีบเก็บสินค้า และนำกลับไปในพื้นที่ที่ปลอดภัย พ่อค้าแม่ค้าในตลาดโอร์เสม็ด จึงพากันขนสินค้ากลับ เข้าไปในพื้นที่ชั้นในประเทศกัมพูชา ทุกร้านจึงปิดหมดแล้ว ตลาดโอร์เสม็ดจึงเป็นตลาดร้างไปแล้วในขณะนี้
ขณะที่บริบ่อนกาสิโนชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชา ตรงข้ามด่านผ่านแดนถวารช่องจอม ทั้ง 2 แห่ง ก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างกัน แม้กาสิโนทั้ง 2 แห่งยังไม่ปิดให้บริการ แต่ก็แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวเล่นการพนัน จากที่เคยมีนักเล่นพนันนับ 1,000 คนต่อวัน แต่วันนี้มีนักพนันที่กล้าเสี่ยงเดินทางเข้าไปเล่นการพนันอยู่ไม่ถึง 200 คน ทั้งที่ผู้ประกอบการบ่อนกาสิโนจะยืนยันความปลอดภัยอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
สำหรับตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ในฝั่งประเทศไทย ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ามา ประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่า บรรยากาศการค้าขายก็ซบเซาลงไปมากเช่นกัน โดยเฉพาะร้านค้าที่เป็นของพ่อค้าแม่ชาวกัมพูชาได้ปิดร้านกลับเข้าไปยังประเทศกัมพูชาเกือบหมดแล้ว เหลือเฝ้าร้านอยู่ไม่ถึง 50 คนจากพ่อค้าแม่ชาวกัมพูชาทั้งหมดกว่า 500 คน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ ซึ่งรับผิดชอบด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ระบุว่า มูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านถาวรช่องจอม ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออก 430.90 ล้านบาท สินค้าส่งออกไปกัมพูชามากที่สุดคือ น้ำมันเชื้อเพลิง ,รถยนต์มือสอง,รถบรรทุก,รถเพื่อการก่อสร้าง ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17.79 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเสื้อ, ผ้าห่ม, รถจักรยาน 2 ล้อมือสอง, สินค้าด้านการเกษตร
ขณะที่มูลค่าการค้าขายที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงส์ จ.ศรีสะเกษ มีมูลค่าส่งออก 876.67 ล้านบาท มูลค่านำเข้า 28.89 ล้านบาท ซึ่งรวมทั้ง 2 ด่าน ดังกล่าวแล้ว ไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้ากัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมกว่า 1,300 ล้านบาท นำเข้าเพียง 46 ล้านบาท เท่านั้น