ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ล่าสุดกัมพูชาเสริมกำลังเพิ่มชายแดนเขาพระวิหาร ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังเข้มรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่ ยันไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท ส่วนการเจรจาของทหารไทย-กัมพูชาระดับภูมิภาคเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ ด้าน มทภ. 2 เตรียมลงพื้นที่เยี่ยมกำลังพลและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุดวันนี้ (15 ต.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การเจรจาหารือระดับกองทัพภูมิภาคทั้ง 2 ประเทศ คือ กองทัพภาคที่ 2 กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำหนดให้มีขึ้นในเวลา 10.00 น.ของวันนี้ (15 ต.ค.) ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากทางกัมพูชาซึ่งเป็นฝ่ายที่ขอนัดเจรจา แจ้งว่ายังไม่มีความพร้อม ฉะนั้นวันนี้จึงไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น
ทั้งนี้ การกำหนดนัดเจรจาดังกล่าว พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ได้หมอบหมายให้ พล.ต.ธวัชชัย สุมทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนของกองทัพภาคที่ 2 ในการเข้าเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา
สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารโดยรวมล่าสุดจากรายงานข่าวทางการทหารทราบว่า ฝ่ายกัมพูชามีการเคลื่อนไหวกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้ามาเสริมในพื้นที่ชายแดนเพิ่มอีก ขณะที่ทางฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังในพื้นที่เช่นเดิม โดยไม่มีการถอนกำลังถอยร่นออกมาจากพื้นที่พิพาทเขาพระวิหารแต่อย่างใด
ทหารไทยในสังกัดกองกำลังสุรนารีที่เข้าประจำการตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่มีความพร้อมทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ เพียงพอที่จะรับมือได้กับสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้นได้อย่างเต็มที่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเสริมกำลังเพิ่มอีก มีเพียงการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อเพิ่มความมั่งคงมากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เวลา 09.00 น.พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 มีกำหนดเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพล และติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์
ด้าน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า สำหรับการนัดเจรจาหารือระดับภูมิภาคระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ล่าสุดในเบื้องต้นได้รับการประสานจากกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ฝ่ายกัมพูชาขอเลื่อนนัดการเจรจาดังกล่าวไปเป็นวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ที่บนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ส่วนเวลายังไม่กำหนดชัดเจน และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชา ซึ่งหากตนไม่ติดภารกิจสำคัญจะเดินทางไปเจรจาเอง หรือมอบหมายให้รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนไปเจรจา
สำหรับเรื่องที่จะหยิบยกขึ้นมาเจรจากันในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) คือ การปรับกำลังทหารให้เหมาะสมไม่ให้เผชิญหน้าใกล้กันมากจนเกินไป เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายได้ และไม่ก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ขึ้นอีก พร้อมทบทวนการปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่ที่ผ่านมาร่วมกัน
“ส่วนจุดยืนของฝ่ายไทยและกองทัพภาคที่ 2 ยังต้องคงกำลังทหารไว้ในพื้นที่ชายแดนดังกล่าวเพื่อรักษาอธิปไตยไม่ให้ได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยผลการเจรจานอกรอบครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะนำเสนอเข้าที่ประชุมระดับรัฐบาลของ 2 ประเทศในวันที่ 21 ต.ค.นี้” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว