ศูนย์ข่าวศรีราชา - สนามกอล์ฟเพลสเซ็นท์ วัลเลย์ กอล์ฟแอนด์คันทรี่คลับ ของกลุ่มทุนชลบุรีภายใต้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนางานบริการเพื่อรองรับกลุ่มนักกอล์ฟที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการทุ่มอีกกว่า 50 ล้านบาท ผุดคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ก่อนเปิดให้บริการพร้อมรีสอร์ต 80 หลัง ปีหน้า
นายสุพงษ์ เสมอวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ ในฐานะประธานกรรมการบริหารสนามกอล์ฟเพลสเซ็นท์ วัลเลย์ กอล์ฟแอนด์คันทรีคลับ ตั้งอยู่ในพื้นที่ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เผยถึงการบริหารงานสนามกอล์ฟในเนื้อที่ 400 ไร่ที่เกิดจากการลงทุนของนักลงทุนท้องถิ่นในจังหวัด ภายใต้งบดำเนินการ 300 ล้านบาทและเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2550 เผยถึงการตัดสินใจลงทุนก่อสร้างสนามกอล์ฟ ในพื้นที่ ต.บางพระ ว่าจุดประสงค์สำคัญคือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัด ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างแหล่งงาน-แหล่งรายได้ให้แก่คนในพื้นที่และใกล้เคียง โดยสนามกอล์ฟดังกล่าวแบ่งเป็นพื้นที่สนามขนาด 18 หลุมและพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ตขนาด 80 หลังในเนื้อที่รวม 300 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 100 ไร่ใช้ในการพัฒนาสระน้ำโดยรอบสนาม เพื่อให้เกิดความสวยงามและเป็นแหล่งน้ำที่ใช้ภาย ในสนามทั้งหมด
หลังเปิดให้บริการได้เพียง 1 ปีพบว่าได้รับความสนใจจากทั้งนักกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ โดยรอบ และนักกอล์ฟต่างถิ่นที่นิยมตีกอล์ฟไปตามสนามต่างๆ ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้จะมีพิธีเปิดสนามอย่างเป็นทางการ และจะเปิดรับสมาชิกในจำนวนจำกัด เพื่อให้สมาชิกได้ใช้สนามอย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนั้น ที่ผ่านมายังใช้งบประมาณอีกไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างคลับเฮาส์ขนาดใหญ่รองรับงานบริการต่างๆ ของสมาชิก โดยใช้พื้นที่ด้านในของสนามดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีหน้าพร้อมกับรีสอร์ตที่กำลังดำเนินการก่อสร้างควบคู่กันไป
ส่วนพื้นที่ด้านหน้าสนามกอล์ฟ มีแผนที่จะก่อสร้างห้องประชุมขนาดกลาง เพื่อรองรับการจัดประชุมทั้งในส่วนพนักงานและรองรับการจัดสัมมนาขนาดไม่ใหญ่นักของผู้เข้าพัก ซึ่งคาดว่าในไม่นานนี้สนามกอล์ฟแห่งนี้จะมีงานบริการที่ครบคลุมอย่างสมบูรณ์
“ธุรกิจสนามกอล์ฟในจังหวัดชลบุรียังคงไปได้สวยเพราะแม้จะมีกลุ่มนักกอล์ฟไม่มากนัก แต่นักกอล์ฟที่มีอยู่ทั้งชาวไทยและต่างชาติก็มีศักยภาพที่จะวนกันเล่นไปตามสนามต่างๆ โดยปัจจุบันจังหวัดชลบุรีมีสนามกอล์ฟประมาณ 20 สนาม ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการให้บริการ สำหรับในแง่การแข่งขันก็พบว่าไม่รุนแรงเพราะแต่ละสนามจะมีจุดขายที่แตกต่างกันและมีลูกค้าประจำ ซึ่งการเปิดรับสมาชิกของเราก็จะทำให้เรามีกลุ่มสมาชิกที่แน่นอน โดยเราจะไม่เปิดรับจำนวนมาก เพื่อให้นักกอล์ฟสามารถใช้สนามได้อย่างเต็มที่”
ทั้งนี้ หลังพิธีแกรนด์โอเพนนิงในวันที่ 1 พฤศจิกายน ฝ่ายการตลาดของสนามกอล์ฟฯจะเริ่มส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าเจาะกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่โดยรอบอย่างจริงจัง เพื่อให้การบริหารงานเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้นเช่นกัน