ศรีสะเกษ - ตำรวจศรีสะเกษล่อซื้อรวบลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังขายยาบ้า ได้ของกลางยาบ้า 5,568 เม็ด รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เผยเป็นการจับกุมยาบ้ารายใหญ่ของ จ.ศรีสะเกษ
วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นายไมตรี อินทุสุต รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ พงษ์สิมา ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ, พ.ต.อ.นิคม อินเฉิดฉาย รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายโชติชัช หรือต่อ จริยฐิติพงศ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176/2 ถ.ศรีสะเกษ ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมยาบ้าของกลาง จำนวน 5,568 เม็ด ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกตำรวจล่อซื้อจับกุมได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 ต.ค.) โดยนายโชติชัช หรือต่อ เป็นลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังคนหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ และมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้ามานาน
นายไมตรี อินทุสุต รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า นายโชติชัช หรือต่อ เคยถูกจับกุมมาแล้วเมื่อปี 2542 และ ปี 2549 ในข้อหาเสพและจำหน่ายยาบ้า แต่ได้ต่อสู้คดีจนหลุดพ้นคดีมาได้และยังคงมีพฤติกรรมการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ พงษ์สิมา ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ สืบทราบว่านายโชติชัชได้นำเอายาบ้าล็อตใหญ่เข้ามาจำหน่ายในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัชพงศ์ พรหมมา สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ นำกำลังตำรวจชุดเฉพาะกิจไปทำการล่อซื้อยาบ้า จำนวน 200 เม็ด จากนายโชติชัช โดยนัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียนกีฬา จ.ศรีสะเกษ ถ.ทองมาก ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อนายโชติชัชนำเอายาบ้ามาส่งให้ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมได้
นายไมตรี กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นพบยาบ้าชนิดเม็ดสีส้ม และเม็ดสีเขียว รวมทั้งสิ้น 383 เม็ด และเงินล่อซื้อ จำนวน 10,000 บาท จึงได้ทำการควบคุมตัวมาทำการสอบสวน และจากการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบิ๊กไบค์ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พบว่าใต้เบาะรถจักรยานยนต์มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในซองพลาสติกอีกจำนวน 5,185 เม็ด รวมแล้วมียาบ้าของกลางจำนวนทั้งสิ้น 5,568 เม็ด ซึ่งนับว่าเป็นการจับกุมยาบ้ารายใหญ่ของจ.ศรีสะเกษ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดี นายโชติชัช หรือต่อ จริยฐิติพงศ์ มนข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ก่อนควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
