สระแก้ว - บ่อนเขมรดักอุ้มจับเสี่ยรถทัวร์กักขังเรียกค่าไถ่ 3.5 แสนบาท เมียวิ่งโร่แจ้งทหารพรานช่วยยังไม่ทราบชะตากรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก นางกัญญารัตน์ งามนิจ ว่าเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ศลิษฎพงศ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.0201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ที่ บกร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา (กองร้อยคลองลึก) ซึ่งอยู่หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเพื่อขอความช่วยเหลือสามี คือ นายสมนึก แสงทอง ซึ่งถูกนายทุนเงินกู้ในบ่อนกาสิโน ปริ๊นเซส คราวน์ ดักอุ้มจับตัวไปกักขังไว้ในบ่อนตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 51 ซึ่งเกรงว่าจะถูกฆ่าทิ้งจึงมาแจ้งและร้องขอความช่วยเหลือโดยเผยว่าสามีตนชื่อนายสมนึก แสงทอง ฯ มีอาชีพประกอบธุรกิจทำรถทัวร์รับส่งนักพนันจาก จ. นนทบุรีมาส่งที่บ่อนกาสิโนสตาร์เวกัส ฝั่งปอยเปต ประเทศ กัมพูชา และได้ถูกกลุ่มนายทุนเงินกู้้ในบ่อนฯ ปริ๊นเซส คราวน์ ดักอุ้มและจับตัวที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนฝั่งปอยเปต แล้วนำตัวไปกักขังในบ่อนกาสิโนปริ้นเซส ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วเรียกเงินค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 350,000 บาทพร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะฆ่าทิ้งหากญาติไม่นำเงินมาไถ่ตัวภายใน 15 วัน
ล่าสุด นางกัญญารัตน์ เมียตัวประกันเข้าพบ พ.ต.ศลิษฎพงศ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าที่สามีถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในบ่อนกาสิโน ซึ่งได้ประสานงานไป ยังสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา โดยประสานงานไปยัง พล.ท.ชก เพียน หัวหน้าสำนักงานประสานงานกัมพูชา-ไทย ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ติดตามสามีตนที่ถูกจับเรียกค่าไถ่ ในเบื้องต้นทราบว่าตัวประกันยังมีชีวิตอยู่ ถูกกลุ่มมาเพียเงินกู้ นอกระบบจับตัวไปกักขังไว้ที่โรงแรมวีโรจนะชั้น 3 หลังบ่อนกาสิโนปริ๊นเซส คราวน์ เนื่องจากวันหยุดไม่สะดวกในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา จะต้องรอเป็นวันจันทร์คงมีความคืบหน้า
นางกัญญารัตน์ เผยอีกว่า ตนเองได้นำเงินมาชำระก่อน จำนวน 150,000 บาท ส่วนที่เหลือจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเจรจากับนายทุนเงินกู้ กัมพูชาในบ่อนกาสิโนเพื่อผ่อนส่งเงินที่เหลือเดือนละ 5,000 บาท เนื่องจากตนก็ไม่มีเงินเพราะวิ่งเต้นเพื่อให้สามีพ้นจากการจับตัวเรียกค่าไถ่ เพราะสามีบอกว่าถูกทารุณ ในการติดต่อช่วยเหลือสามีก็คนมาอ้างตัวเป็นตำรวจสระแก้ว ชื่อ สุพจน์ สุวรรณ ให้โอนเงินเข้าบัญชีให้ 10,000 บาท เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการติดต่อเจรจากับกลุ่มที่จับตัวเรียกค่าไถ่ หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายและไม่สามารถติดต่อกับตำรวจชื่อสุพจน์ได้อีกเพราะปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือหนีไปอีกเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก นางกัญญารัตน์ งามนิจ ว่าเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ศลิษฎพงศ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.0201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ที่ บกร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา (กองร้อยคลองลึก) ซึ่งอยู่หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเพื่อขอความช่วยเหลือสามี คือ นายสมนึก แสงทอง ซึ่งถูกนายทุนเงินกู้ในบ่อนกาสิโน ปริ๊นเซส คราวน์ ดักอุ้มจับตัวไปกักขังไว้ในบ่อนตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 51 ซึ่งเกรงว่าจะถูกฆ่าทิ้งจึงมาแจ้งและร้องขอความช่วยเหลือโดยเผยว่าสามีตนชื่อนายสมนึก แสงทอง ฯ มีอาชีพประกอบธุรกิจทำรถทัวร์รับส่งนักพนันจาก จ. นนทบุรีมาส่งที่บ่อนกาสิโนสตาร์เวกัส ฝั่งปอยเปต ประเทศ กัมพูชา และได้ถูกกลุ่มนายทุนเงินกู้้ในบ่อนฯ ปริ๊นเซส คราวน์ ดักอุ้มและจับตัวที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนฝั่งปอยเปต แล้วนำตัวไปกักขังในบ่อนกาสิโนปริ้นเซส ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วเรียกเงินค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 350,000 บาทพร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะฆ่าทิ้งหากญาติไม่นำเงินมาไถ่ตัวภายใน 15 วัน
ล่าสุด นางกัญญารัตน์ เมียตัวประกันเข้าพบ พ.ต.ศลิษฎพงศ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าที่สามีถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในบ่อนกาสิโน ซึ่งได้ประสานงานไป ยังสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา โดยประสานงานไปยัง พล.ท.ชก เพียน หัวหน้าสำนักงานประสานงานกัมพูชา-ไทย ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ติดตามสามีตนที่ถูกจับเรียกค่าไถ่ ในเบื้องต้นทราบว่าตัวประกันยังมีชีวิตอยู่ ถูกกลุ่มมาเพียเงินกู้ นอกระบบจับตัวไปกักขังไว้ที่โรงแรมวีโรจนะชั้น 3 หลังบ่อนกาสิโนปริ๊นเซส คราวน์ เนื่องจากวันหยุดไม่สะดวกในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา จะต้องรอเป็นวันจันทร์คงมีความคืบหน้า
นางกัญญารัตน์ เผยอีกว่า ตนเองได้นำเงินมาชำระก่อน จำนวน 150,000 บาท ส่วนที่เหลือจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเจรจากับนายทุนเงินกู้ กัมพูชาในบ่อนกาสิโนเพื่อผ่อนส่งเงินที่เหลือเดือนละ 5,000 บาท เนื่องจากตนก็ไม่มีเงินเพราะวิ่งเต้นเพื่อให้สามีพ้นจากการจับตัวเรียกค่าไถ่ เพราะสามีบอกว่าถูกทารุณ ในการติดต่อช่วยเหลือสามีก็คนมาอ้างตัวเป็นตำรวจสระแก้ว ชื่อ สุพจน์ สุวรรณ ให้โอนเงินเข้าบัญชีให้ 10,000 บาท เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการติดต่อเจรจากับกลุ่มที่จับตัวเรียกค่าไถ่ หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายและไม่สามารถติดต่อกับตำรวจชื่อสุพจน์ได้อีกเพราะปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือหนีไปอีกเลย