ต่างด้าวเขมรทะลักทำงานแทนแรงงานไทยหลังถูกเกณฑ์ร่วมม็อบ

พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1206 นำกำลังตั้งจุดตรวจค้น บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นมาตรการคุมเข้มสกัดกั้นการลักลอบขนอาวุธ วัตถุระเบิดและยาเสพติด จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยในช่วงมีม็อบเสื้อแดงชุมนุมประท้วง ในกรุงเทพฯ ต่อมาได้มีกลุ่มชาวเขมรจำนวนมากทั้งชายและหญิง รวม 99 คน เดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทาง ข้ามด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เมื่อถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเขมร ทั้งหมด 99 คน เป็นชาย 38 คน และ หญิง 61 คน โดยแต่ละคนมีพาสปอร์ตประทับตราเข้าประเทศ จากด่าน ตม.อรัญประเทศ เข้ามาอย่างถูกต้อง เมื่อสอบถามทราบว่า เป็นแรงงานชาวเขมรที่ได้รับการติดต่อว่าจ้างผ่านกระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศ ตามข้อตกลง MOU ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส แอนด์ เอ (2009) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตปลากระป๋อง อยู่ที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง จนท.ได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายรวมทั้งอาวุธและวัตถุระเบิด เข้า มา และจากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
ด้านตัวแทนของบริษัทจัดหาแรงงานเขมร ส่งป้อนโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย ซึ่งไม่ยอมเผยชื่อและชื่อบริษัทฯ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบว่า หลังจากที่มีม็อบเสื้อแดง ในกรุงเทพฯโดยเฉพาะได้มีการว่าจ้างและชักชวนประชาชน รวมถึงแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม มาร่วมชุมนุมกลับกลุ่มม็อบเสื้อแดง ทำให้แรงงาน กรรมกร ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย ขาดแคลนแรงงานเป็นอย่างมาก ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม ต้องสั่งบริษัทจัดหาแรงงานเขมร หาแรงงานเขมรจำนวนมากเพื่อมาทดแทนแรงงานไทยที่ขาดแคลน ซึ่งได้มีการนำแรงงานเขมรเข้าไปส่งในโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งใน จ.ชลบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ และ จ.สงขลา มาแล้วกว่า 2,000 คน ซึ่งยังต้องการแรงงานเขมร อยู่อีกกว่า 5,000 อัตตรา