สระแก้ว - ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล “ลุงหมัก” เกี่ยวกับเขาพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริเวณชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว จากกรณีที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีพระวิหาร ว่ามีชาวกัมพูชา (เขมร) รุกล้ำเข้ามาปลูกบ้านเรือนในฝั่งประเทศไทย
ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบมาถึงชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณตลาดโรงเกลือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขมรที่เข้ามาทำมาหากินค้าขาย และรับจ้างอยู่ในตลาดโรงเกลือจำนวนมาก โดยได้รับฟังข่าวสารจากวิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และจะมีการเดินขบวนมาประท้วงและจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พ่อค้า-แม่ค้าชาวเขมรบางส่วน เกิดความกลัวไม่กล้าเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ทำให้ร้านค้าในตลาดโรงเกลือซึ่งมีกว่า 2,000 ร้าน และส่วนใหญ่เป็นชาวเขมรเข้ามาค้าขาย ทำให้ตลาดโรงเกลือดูเงียบเหงา และลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แหล่งข่าวจากด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหาร ทางหน่วยเหนือยังไม่มีการสั่งการใดๆออกมา โดยด่าน ต.ม.อรัญประเทศยังเปิดดำเนินการตามปกติ แต่อาจจะเข้มงวดกวดขันการเดินทางผ่านเข้า-ออกเปิดมากขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า ช่วงระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา มีชาวไทยและชาวเขมรเดินทางผ่านเข้า-ออก ชายแดนลดน้อยลง โดยเฉพาะชาวเขมรซึ่งเดินทางเข้ามาค้าขาย รับจ้างและซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือฝั่งไทยนั้นปกติมีวันละประมาณเกือบ 10,000 คน แต่ช่วงเกิดเหตุการณ์ มีชาวเขมรเดินทางเข้ามาเพียงวันละประมาณ 5,000-7,000 คน ส่วนชาวไทยที่เดินทางออกไปฝั่งกัมพูชาก็ลดลงอย่างมากปกติเคยมีเดินทางออกไปวันละเกือบ 2,000 คน ช่วงนี้เหลือประมาณวันละ ประมาณ 1,000 คน
ส่วนเรื่องกรณีเขาพระวิหาร ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ที่ทำให้ชาวเขมรเข้ามาในตลาดโรงเกลือน้อยลงเนื่องจากมีข่าวลือในปอยเปต ว่า ไทยอาจจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศ โดยเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น โดยในความเป็นจริงยังเปิดให้ผ่านเข้า-ออกตามปกติ
ด้าน นายเมธา ล้อเจริญวัฒนชัย ผู้ประกอบการค้าในตลาดโรงเกลือ เปิดเผยว่า เรื่องเขาพระวิหาร ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวลดเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น กรณีน้ำมันแพงก็ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้พ่อค้าชาวเขมรหลายคนไม่กล้าเปิดร้านค้าขาย เพราะกลัวจำหน่ายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญมีข่าวลือไทยจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศ กรณีเรื่องข้อพิพาทเขาพระวิหาร ยิ่งทำให้ชาวเขมรยิ่งกลัว ไม่กล้าเข้ามาค้าขาย โดยต่างรอดูสถานการณ์อยู่ในฝั่งเขมร
ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐโดยเฉพาะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ช่วยลงมาดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเขมร ที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ขืนปล่อยให้สภาพตลาดโรงเกลือเป็นเช่นนี้ต่อไป ผู้ประกอบการอาจได้รับความเสียหายทางเชิงธุรกิจค้าชายแดนอย่างแน่นอน ดังนั้น ควรจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่สร้างผลกระทบโดยด่วน เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นตลาดร้างส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริเวณชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว จากกรณีที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีพระวิหาร ว่ามีชาวกัมพูชา (เขมร) รุกล้ำเข้ามาปลูกบ้านเรือนในฝั่งประเทศไทย
ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบมาถึงชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณตลาดโรงเกลือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขมรที่เข้ามาทำมาหากินค้าขาย และรับจ้างอยู่ในตลาดโรงเกลือจำนวนมาก โดยได้รับฟังข่าวสารจากวิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และจะมีการเดินขบวนมาประท้วงและจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พ่อค้า-แม่ค้าชาวเขมรบางส่วน เกิดความกลัวไม่กล้าเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ทำให้ร้านค้าในตลาดโรงเกลือซึ่งมีกว่า 2,000 ร้าน และส่วนใหญ่เป็นชาวเขมรเข้ามาค้าขาย ทำให้ตลาดโรงเกลือดูเงียบเหงา และลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แหล่งข่าวจากด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหาร ทางหน่วยเหนือยังไม่มีการสั่งการใดๆออกมา โดยด่าน ต.ม.อรัญประเทศยังเปิดดำเนินการตามปกติ แต่อาจจะเข้มงวดกวดขันการเดินทางผ่านเข้า-ออกเปิดมากขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า ช่วงระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา มีชาวไทยและชาวเขมรเดินทางผ่านเข้า-ออก ชายแดนลดน้อยลง โดยเฉพาะชาวเขมรซึ่งเดินทางเข้ามาค้าขาย รับจ้างและซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือฝั่งไทยนั้นปกติมีวันละประมาณเกือบ 10,000 คน แต่ช่วงเกิดเหตุการณ์ มีชาวเขมรเดินทางเข้ามาเพียงวันละประมาณ 5,000-7,000 คน ส่วนชาวไทยที่เดินทางออกไปฝั่งกัมพูชาก็ลดลงอย่างมากปกติเคยมีเดินทางออกไปวันละเกือบ 2,000 คน ช่วงนี้เหลือประมาณวันละ ประมาณ 1,000 คน
ส่วนเรื่องกรณีเขาพระวิหาร ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ที่ทำให้ชาวเขมรเข้ามาในตลาดโรงเกลือน้อยลงเนื่องจากมีข่าวลือในปอยเปต ว่า ไทยอาจจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศ โดยเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น โดยในความเป็นจริงยังเปิดให้ผ่านเข้า-ออกตามปกติ
ด้าน นายเมธา ล้อเจริญวัฒนชัย ผู้ประกอบการค้าในตลาดโรงเกลือ เปิดเผยว่า เรื่องเขาพระวิหาร ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวลดเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น กรณีน้ำมันแพงก็ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้พ่อค้าชาวเขมรหลายคนไม่กล้าเปิดร้านค้าขาย เพราะกลัวจำหน่ายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญมีข่าวลือไทยจะปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศ กรณีเรื่องข้อพิพาทเขาพระวิหาร ยิ่งทำให้ชาวเขมรยิ่งกลัว ไม่กล้าเข้ามาค้าขาย โดยต่างรอดูสถานการณ์อยู่ในฝั่งเขมร
ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐโดยเฉพาะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ช่วยลงมาดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเขมร ที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ขืนปล่อยให้สภาพตลาดโรงเกลือเป็นเช่นนี้ต่อไป ผู้ประกอบการอาจได้รับความเสียหายทางเชิงธุรกิจค้าชายแดนอย่างแน่นอน ดังนั้น ควรจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่สร้างผลกระทบโดยด่วน เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นตลาดร้างส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ในทันที
