เชียงราย – หวั่นไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ หลังคนเชียงรายตายแล้ว 5 ป่วยอีกเกือบพันรายแล้ว สสจ.เตือนชาวบ้านหากมีอาการรีบพบแพทย์ทันที ห้ามรีรอเด็ดขาด
รายงานข่าวจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่า สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ได้สรุปสถิติผู้ป่วยสะสมตลอดทั้งปี 2551 ที่ติดเชื้อและป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกว่ามีจำนวนรวมกันกว่า 721 คน โดยเกิดขึ้นมากที่สุดในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า อ.เทิง อ.แม่สาย ฯลฯ
ขณะเดียวกัน พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย โดยรายล่าสุด น.ส.วิจิตรา สมจิตต์ อายุ 17 ปี นักเรียนที่เรียนดี และได้รับรางวัลด้านการจัดกิจกรรมหลายรายการ สังกัดโรงเรียนดำรงค์ราษฎร์สงเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย เสียชีวิตจากการติดเชื้อเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา และจากสถิติอายุผู้ป่วยในปีนี้พบว่าแตกต่างจากในอดีต เพราะมีผู้สูงอายุติดเชื้อและป่วยเป็นจำนวนมาก โดยมีอายุสูงสุดที่ 50-60 ปี
นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ นายแพทย์ 9 ปฏิบัติราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าปกติโรคไข้เลือดออกจะป่วยและเป็นไข้ขึ้นสูง 3-5 วัน และจะหายภายใน 7 วัน แต่ในช่วงที่ป่วยจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยหากอาการในแต่ละวันไม่ดีขึ้นหรือไม่มีผลการตรวจโรคที่ชัดเจนต้องไปพบแพทย์ตลอดจะเว้นช่วงเย็น เพื่อรอไปตอนเช้าไม่ได้เป็นอันขาด
อย่างกรณีที่เสียชีวิตรายล่าสุด พบว่าเริ่มป่วยในวันที่ 27 ก.ย.และได้ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีการเจาะเลือดแต่ยังไม่พบเชื้อที่ชัดเจน จึงกลับไปนอนพักที่บ้านหลายวันจนกระทั่งวันที่ 1 ต.ค.ไข้ขึ้นสูงก็ไปพบแพทย์อีกครั้งอาการก็ยังไม่ชัดเจนอีก
กระทั่งรอไปถึงวันที่ 3 ต.ค.จึงไปพบแพทย์แต่พบว่า เข้าสู่ขั้นอาการหนักแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้จึงเสียชีวิตในวันที่ 6 ต.ค.ดังกล่าว ซึ่งแพทย์และสำนักงานสาธารณสุขขอแสดงความเสียใจต่อญาติของเด็กด้วย
“การแพร่ระบาดขณะนี้ไม่ถือว่าผิดปกติเพราะมีการป่วยกันมากทั่วประเทศอยู่แล้ว แต่สำหรับเชียงรายอาจมีตัวเลขมากกว่าปีก่อนเล็กน้อยเพราะปีนี้ฝนตกชุกมาก ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายซึ่งเป็นพาหนะนำโรคได้ง่าย เนื่องจากมีการติดเชื้อกันมากในปีนี้จึงเกรงว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวอย่างเชื้อไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วโดยกำลังรอฟังคำตอบอยู่”
ด้านมาตรการทั่วไปนั้นได้จัดชุดออกไปยังพื้นที่ ที่พบว่ามีผู้ป่วยโดยทันทีเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการพ่นหมอกควันฆ่าเชื้อในระยะ 200 เมตรที่เป็นรัศมีที่ยุงลายบิน รณรงค์ประชาชนให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย แจกทรายอะเบส ฯลฯ โดยดำเนินการไปจนถึงช่วงสิ้นฤดูฝนเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้สถิติการเกิดโรคลดลงเรื่อยๆ แล้ว
นายแพทย์สุรินทร์ กล่าวถึงกรณีการที่คนผู้ตื่นกลัวว่าแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านจะนำเชื้อเข้ามาแพร่ว่าไม่น่าตื่นตระหนัก เพราะการจะแพร่เชื้อเกิดจากผู้ที่ป่วยเท่านั้นซึ่งทุกคนที่ถูกยุงลายที่มีเชื้อกัดมีสิทธิเป็นพาหะได้ทั้งนั้น ไม่ควรใช้ความรู้สึกไปกำหนดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเชียงรายเป็นพื้นที่ชายแดนจึงเฝ้าระวังโดยตลอดแล่ว เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นจะให้ได้ผลดีที่สุดประชาชนทุกหมู่เหล่าต้องช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในทุกชุมชนด้วย
รายงานข่าวจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่า สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ได้สรุปสถิติผู้ป่วยสะสมตลอดทั้งปี 2551 ที่ติดเชื้อและป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกว่ามีจำนวนรวมกันกว่า 721 คน โดยเกิดขึ้นมากที่สุดในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า อ.เทิง อ.แม่สาย ฯลฯ
ขณะเดียวกัน พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย โดยรายล่าสุด น.ส.วิจิตรา สมจิตต์ อายุ 17 ปี นักเรียนที่เรียนดี และได้รับรางวัลด้านการจัดกิจกรรมหลายรายการ สังกัดโรงเรียนดำรงค์ราษฎร์สงเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย เสียชีวิตจากการติดเชื้อเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา และจากสถิติอายุผู้ป่วยในปีนี้พบว่าแตกต่างจากในอดีต เพราะมีผู้สูงอายุติดเชื้อและป่วยเป็นจำนวนมาก โดยมีอายุสูงสุดที่ 50-60 ปี
นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ นายแพทย์ 9 ปฏิบัติราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าปกติโรคไข้เลือดออกจะป่วยและเป็นไข้ขึ้นสูง 3-5 วัน และจะหายภายใน 7 วัน แต่ในช่วงที่ป่วยจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยหากอาการในแต่ละวันไม่ดีขึ้นหรือไม่มีผลการตรวจโรคที่ชัดเจนต้องไปพบแพทย์ตลอดจะเว้นช่วงเย็น เพื่อรอไปตอนเช้าไม่ได้เป็นอันขาด
อย่างกรณีที่เสียชีวิตรายล่าสุด พบว่าเริ่มป่วยในวันที่ 27 ก.ย.และได้ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีการเจาะเลือดแต่ยังไม่พบเชื้อที่ชัดเจน จึงกลับไปนอนพักที่บ้านหลายวันจนกระทั่งวันที่ 1 ต.ค.ไข้ขึ้นสูงก็ไปพบแพทย์อีกครั้งอาการก็ยังไม่ชัดเจนอีก
กระทั่งรอไปถึงวันที่ 3 ต.ค.จึงไปพบแพทย์แต่พบว่า เข้าสู่ขั้นอาการหนักแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้จึงเสียชีวิตในวันที่ 6 ต.ค.ดังกล่าว ซึ่งแพทย์และสำนักงานสาธารณสุขขอแสดงความเสียใจต่อญาติของเด็กด้วย
“การแพร่ระบาดขณะนี้ไม่ถือว่าผิดปกติเพราะมีการป่วยกันมากทั่วประเทศอยู่แล้ว แต่สำหรับเชียงรายอาจมีตัวเลขมากกว่าปีก่อนเล็กน้อยเพราะปีนี้ฝนตกชุกมาก ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายซึ่งเป็นพาหนะนำโรคได้ง่าย เนื่องจากมีการติดเชื้อกันมากในปีนี้จึงเกรงว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวอย่างเชื้อไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วโดยกำลังรอฟังคำตอบอยู่”
ด้านมาตรการทั่วไปนั้นได้จัดชุดออกไปยังพื้นที่ ที่พบว่ามีผู้ป่วยโดยทันทีเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการพ่นหมอกควันฆ่าเชื้อในระยะ 200 เมตรที่เป็นรัศมีที่ยุงลายบิน รณรงค์ประชาชนให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย แจกทรายอะเบส ฯลฯ โดยดำเนินการไปจนถึงช่วงสิ้นฤดูฝนเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้สถิติการเกิดโรคลดลงเรื่อยๆ แล้ว
นายแพทย์สุรินทร์ กล่าวถึงกรณีการที่คนผู้ตื่นกลัวว่าแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านจะนำเชื้อเข้ามาแพร่ว่าไม่น่าตื่นตระหนัก เพราะการจะแพร่เชื้อเกิดจากผู้ที่ป่วยเท่านั้นซึ่งทุกคนที่ถูกยุงลายที่มีเชื้อกัดมีสิทธิเป็นพาหะได้ทั้งนั้น ไม่ควรใช้ความรู้สึกไปกำหนดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเชียงรายเป็นพื้นที่ชายแดนจึงเฝ้าระวังโดยตลอดแล่ว เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นจะให้ได้ผลดีที่สุดประชาชนทุกหมู่เหล่าต้องช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในทุกชุมชนด้วย