อุบลราชธานี- “วิฑูรย์ นามบุตร” ผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่ม 4 ปชป.พร้อมลูกทีมผู้สมัครเขต 1 อุบลราชธานีได้เฮ! หลังอนุฯคณะกรรมการสอบสวนการทำทุจริตมีมติส่งคำให้การพยานที่ “สมบัติ รัตโน” คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชนร้องให้สอบเพิ่มไปให้ กกต.กลาง ชี้ ขาดคุณสมบัติ โดยผู้ร้องพลิกลิ้นยกสุดท้ายไม่ได้ร้องให้สอบเพิ่มเพียงแค่ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น ส่วน “วิฑูรย์” เหน็บให้ทำใจ เพราะพยานเป็นพวกคนหน้าเดิมไม่มีอะไรใหม่
วันนี้ (30 ก.ย.) นายสุธน แสงสายัณห์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบวินิจฉัยเรื่องร้องคัดผลการเลือกตั้งและการทำทุจริตของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุบลราชธานี และผลการลงคะแนนเลือกนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 4 อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลัง กกต.กลาง มีมติให้คณะอนุกรรมการสอบสวนสอบพยานเพิ่มอีก 7 ปากตามที่นายสมบัติ รัตโน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชนเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุบลราชธานี ยื่นหนังสือร้องมา ปรากฏว่า มีพยานมาตามนัดเพียง 3 ราย
ส่วนที่เหลืออีก 4 ปาก คณะอนุกรรมการฯจะไม่รอพยานส่วนที่เหลือ โดยจะส่งผลการสอบพยานเพิ่มเติมทั้ง 3 ปากไปให้ กกต.ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนที่ได้สอบสวนไปแล้ว
นายสมบัติ รัตโน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน ผู้ร้องกล่าวว่า ไม่ได้ยื่นเรื่องให้สอบพยานเพิ่มเพียงแต่ตั้งข้อสังเกต 7 ข้อ เช่น ประธานอนุกรรมการสอบสวนที่ จ.อุบลราชธานี มีความชอบธรรมในการสอบหรือไม่ เพราะประธานยังถูกตั้งกรรมการสอบอยู่ และจำนวนคนที่มาดูหนังในโรงภาพยนต์เนวาด้ามีแค่พันกว่าคนจริงหรือ ทั้งที่มีการจัดชมภาพยนต์หลายรอบตั้งแต่วันที่ 11-19 พ.ย.น่าจะมีผู้เข้าชม 9 พันหรือหมื่นคนขึ้น
“อย่างไรก็ตาม เริ่มทำใจจากกรณีนี้ เพราะเพื่อนหลายคนถูกใบแดง ใบเหลือง ทั้งที่จังหวัดอุดรธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่รอด ซึ่งก็ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมที่ตัดสิน” นายสมบัติ อดีต ส.ส.และอดีตผู้สมัคร จ.อุบลราชธานี กล่าวอย่างปลงอนิจัง
ด้าน นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่ม 4 ที่ถูกร้องเรียนกรณีแจกตั๋วดูภาพยนต์กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ตนและลูกทีมจะรอดจากใบแดง เพราะไม่ได้ทำผิด และทำตามระเบียบที่ กกต.กำหนดไว้ทุกอย่าง สำหรับที่ นายสมบัติ ยื่นขอสอบพยานเพิ่ม ก็เป็นการซื้อเวลาเท่านั้น พยานที่เรียกมาสอบเพิ่ม ก็เป็นคนเก่าหน้าเดิม สื่อมวลชนก็มีเพียง น.ส.วีนัส เอี่ยมสะอาด เป็นพยาน ก็ได้ไปให้การตามความเป็นจริง ส่วนพยานอีก 2 คน ก็เป็นหัวคะแนนคุณสมบัติ
“วันนั้นเราเชิญสื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ก็ทำอย่างเปิดเผยเป็นการประชุมผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครตามปกติ และ กกต.จังหวัด ก็รับทราบความเคลื่อนไหวครั้งนั้นด้วย” นายวิฑูรย์ กล่าวอย่างมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองและลูกทีมที่ถูกร้องเรียนกรณีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับกรณี นายสมบัติ รัตโน ร้องให้สอบพยานเพิ่มเติม โดยระบุพยานเพิ่มเติมเป็นนายกสมาคมผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี และ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กลาง ได้ให้สัมภาษณ์ระบุสาเหตุต้องสอบพยานเพิ่มอีก เพราะยังมีพยานที่เป็นนายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี ที่ทราบเรื่องยังไม่ได้มาให้ปากคำกับชุดสืบสวน กกต.
ต่อมา นายประสงค์ หวังดี บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประชามติ และเป็นนายกสมาคมผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี ซึ่งถูกระบุชื่อไปมีส่วนพัวพันในการเป็นพยานเพิ่มเติมภายหลังได้ออกมาโต้ข่าว โดยกล่าวว่า นึกไม่ถึงจะถูกนำชื่อไปอ้าง เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเมือง
จึงได้ทำหนังสือแจ้งให้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กลาง และนายมนไท ประมูลจักโก ประธาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ทราบความจริง รวมทั้งขอหนังสือตามที่มีผู้นำไปใช้กล่าวอ้างมาตรวจสอบ ก่อนสืบหาต้นตอผู้ทำหนังสือปลอม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมายด้วย