ศูนย์ข่าวศรีราชา - หลังจากปลาวาฬโผล่หาดบางแสน ได้สร้างความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นอย่างมาก ทำให้ฝูงปลาเล็ก ปลาใหญ่มหึมาว่ายวนเวียนรุมตอมปะการังเทียม ส่งผลพรานทะเลนักล่าซุ่มดำน้ำใช้ฉมวกเลือกยิงเลือกเฉพาะปลาใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ที่มีราคาแพงสร้างรายได้อย่างต่ำวันละ 2 -3 หมื่นบาท เผยแนวทะเลตะวันออกอาหารสมบูรณ์ เตรียมกวดขันเรืออวนลาก อวนล้อมทำปะการังเทียมพัง
จากกรณีที่มีชาวประมงพบปลาวาฬโผล่เล่นน้ำที่บริเวณชายหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา ทำให้ทะเลหาดบางแสนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และสามารถพิสูจน์ได้ คือ มีปลาฝูงขนาดใหญ่ หลากหลายชนิดเข้ามาวนเวียน กินอาหารอยู่ที่บริเวณแหล่งปะการังเทียม ที่ทางเทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี ได้ทำเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เรืออวนลาก และเรืออวนล้อมบุกรุกเข้ามาหาปลาแนวชายฝั่ง ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นายเอกศักดิ์ เสริมศรี หรือ เก้า ชาวบางแสนนักล่าดำน้ำยิงปลาด้วยฉมวก พร้อมกับเพื่อนได้นำเรือขนาดเล็กออกไปดำน้ำ ใช้ปืนฉมวกยิงปลาตัวขนาดใหญ่จำนวนมาก อย่างต่ำ 200 กิโลกรัม และนำมาขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือลานอเนกประสงค์แหลมแท่น พบ กะพงขาว ปลากู่ ปลานกแก้ว ปลาไอ้จี้ ซึ่งล้วนแล้วเป็นปลาราคาแพงเกือบทั้งสิ้น มีประชาชนมาซื้อไปจำนวนมาก รวมทั้งประชาชนได้มาดูปลาดังกล่าวจำนวนมาเช่นกัน เพราะไม่เคยพบว่าจะได้ปลาขนาดใหญ่มาจำนวนมากขนาดนี้ และเป็นปลาเกรดดีสำหรับนักบริโภค
นายเอกศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีปลาวาฬเข้ามาที่ชายหาดบางแสน บริเวณแหล่งปะการังเทียม นักวิชาการบอกว่ามีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ปลาวาฬจากต่างถิ่นได้เข้ามาหาอาหารกิน ระยะแรกกลัวปลาวาฬ เพราะมีขนาดใหญ่ แต่พอรู้ว่าไม่อันตรายต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ จึงทำใจดีสู้เสือไปดำน้ำยิงปลาด้วยปืนฉมวก ที่แหล่งปะการังเทียม พอดำน้ำลงไปโดยไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือถังอากาศ ลึกประมาณ 5 เมตรจากผิวน้ำ
ปรากฏว่า ต้องตกตะลึงเพราะพบแต่ฝูงปลา ฝูงใหญ่ดำทะมึนจนแทบมองไม่เห็นพื้นทราย สามารถใช้ฉมวกเลือกยิง เอาเฉพาะปลาตัวใหญ่ ปลามีราคาแพง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคตามร้านอาหารต่างๆ เช่น ปลากะพง ปลากู่ ปลานกแก้ว ฯลฯ
“ในอดีตไม่เคยพบว่ามีปลาจำนวนมากอย่างนี้ ตั้งแต่มีปลาวาฬมาทำให้ปลาอื่นมีจำนวนมาก สังเกตจากที่มีตำรวจไปตกปลาได้มาจำนวนมาก จึงได้ซุ่มไปดำดู และยิงปลามาได้จำนวนมาก ประมาณวันละ 200 กิโลกรัม ทำรายได้วันละ 2-3 หมื่นบาท ไม่กล้ายิงมาเยอะกว่านี้ ปล่อยไว้ยิงวันหน้าบ้าง และเกรงว่า จะมีคนรู้มาก โดยเฉพาะเรืออวนลากที่มักบุกเข้าไปลาก จนกองปะการังเทียมพังล้มจมทรายไปแล้วหลายกอง เหลือกองปะการังเทียมเพียงไม่กี่กองในขณะนี้ ซึ่งในวันนี้ได้ปลากะพง ขายได้ กิโลละ 150 บาท
ส่วนปลานกแก้วมีราคาสูงถึง 600 บาทต่อกิโลกรัม ปลากู่ ก็เช่นกันมีราคาแพงกิโลละ 600 บาท ส่วนปลาอื่นๆ ที่ได้อีกจำนวนหนึ่ง ได้มีนักท่องเที่ยว แม่ค้าร้านอาหาร ที่รู้ต่างรีบมาซื้อกันเป็นจำนวนมาก ถ้าขายปลาได้หมดจะมีรายได้วันละ 3-4 หมื่นบาท”
ด้าน นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีราชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางชายหาดบางแสนได้มีปรากฏการณ์ ปลาวาฬ เข้าฝั่งมาหาอาหารกินนั้น ที่แรกก็ยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่เพราะว่ายังไม่เห็นภาพรักษ์จริง ของปลาที่เข้ามา แต่หลังจากที่ทางข่าวทางทีวีออกมาตนจึงเชื่อ ส่วนที่เข้ามานั้นตนว่าคงไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ปรกติแล้วปลาย่อมหาแหล่งที่อยู่อาศัย ที่มีอาหารให้กิน แต่จะแปลกก็ตรงที่ว่าเป็นปลาวาฬขนาดใหญ่เท่านั้น
โดยที่ผ่านมาชายหาดบางแสน ตลอดจนถึงศรีราชาและแหลมฉบังนั้น จะมีเพียงกลุ่มปลาโลมา ที่แหวกว่ายหาอาหารกินในช่วงฤดูการนี้ ในฐานะที่ตนเป็นประธานกลุ่ม “ICM” หรือ กลุ่มพัฒนาชายฝั่งแบบบูรณาการ มีสมาชิกในภาคตะวันออกเข้าร่วมถึง 24 กลุ่ม จะได้น้ำเรื่องของการเข้ามาหาอาหารกินของปลาวาฬ ทั้ง 4 ตัว นำเสนอกับผู้ที่สนับสนุนโครงการ ร่วมกับความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทำเพาะเลี้ยง กุ้ง,หอย,ปูและปลา นั้นทางกลุ่มประมงชายฝั่งทะเลก็ทำได้ผลเกิน100% ในพื้นที่ ชลบุรี-ศรีราชา ด้วย
นายฉัตรชัย กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนเรื่องที่มีปลาใหญ่ชนิดต่างๆ ตามปลาวาฬเข้า มานั้น ตนก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดปรากฏการณ์ในทางที่ไม่ดีอย่างไร ถ้าจะเปรียบเทียบกับวงจรชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ทั่วไป ปลาเล็กนั้นย่อมเป็นอาหารของปลาใหญ่อยู่แล้ว แต่คิดกับตรงข้าม การมาของปลาชนิดต่างๆ นั้น แสดงให้เห็นว่า ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำทะเลในภาคตะวันออกนั้นทำให้สัตว์น้ำเข้ามาหากินชายฝั่งมากขึ้น
โดยเฉพาะปลาวาฬนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าระบบนิเวศน์ทางน้ำไม่ดีปลาก็คงไม่เข้ามาเหมือนกัน ส่วนในอนาคตนั้นการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี อาจจะสดใสขึ้น ถ้าปลาวาฬจะกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ซึ่งในขณะนี้กลุ่มปลาวาฬได้ยังคงหากินอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรีอย่างแน่นอน เพราะได้รับรายงานมาว่าปลาวาฬชุดนี้ยังวนเวียนอยู่แถบหน้าเกาะสีชังและศรีราชา ในช่วงนี้
ด้าน นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข เผยว่าพอได้ทราบข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชนว่ามีปลาวาฬเข้ามาในพื้นที่ รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีจุดขายการท่องเที่ยวใหม่ อีกทั้งนำข้อมูลมาเป็นแนวทางและความเป็นไปได้ในการพัฒนาเพิ่มเติมด้านการส่งเสริมท่องเที่ยว หากกลุ่มปลาวาฬชุดนี้จะกลับมาอีกครั้ง ส่วนทางด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ แหล่งพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ทางเทศบาลเคยนำเอาวัสดุสิ่งเหลือใช้มาทิ้งหรือที่เรียกว่าปะการังเทียมที่บริเวณที่กลุ่มปลาวาฬมานั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ที่ได้มีสัตว์น้ำเข้ามาอาศัยเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ในช่วงของเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ความโชคดีของชาวจังหวัดชลบุรี ที่ปลาวาฬกลุ่มนี้เข้ามาให้ได้พบเห็นแบบใกล้ชิดซึ่งในประวัตินั้น จังหวัดชลบุรีไม่เคยพบปลาวาฬตัวเป็นๆ มาแหวกว่ายหาอาหารกินให้เห็นเลยสักครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม เราจะต้องสอดส่องดูแลเรืออวนลาก เรืออวนล้อมที่มักเข้าไปลากในบริเวณแหล่งปะการังเทียม ทราบว่า ตอนนี้อาจจะมีความเสียหายไปบ้างแล้วจำนวนมาก ทางเทศบาลต้องส่งเจ้าหน้าที่ดำสำรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นปะการังเทียมจะจมลงพื้นทรายหมด