ศูนย์ข่าวศรีราชา- 2 พรานทะเล ออกทะเลยิงปลากะพง เจอ 4 วาฬยักษ์ไล่งับเหยื่อปลาเล็กเป็นอาหารอย่างเมามัน โผล่หัวหายใจเริงร่ามองไกลๆ นึกว่าเรือจม หัวเรือโผล่เหนือน้ำ เข้าไปดูใกล้ๆ เป็น “วาฬ” พบแหล่งปะการังเทียมเสื่อมโทรม ถูกเรือลากอวนพาล้มระเนระนาดจมทราย ต้องล้อมกรอบไม่เช่นนั้นแหล่งอาศัย แหล่งอาหารจะหมดไปจากชายหาดบางแสน
วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้ทราบจาก นายเอกศักดิ์ เสริมศรี อายุ 31 ปี และนายชาญณรงค์ ฉะอ้อนครบุรี อายุ 27 ปี ได้ออกไปยิงปลาที่บริเวณแหล่งปะการังเทียม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นโครงการทิ้งท่อนปูน เสาปูน เป็นแหล่งปะการังเทียม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ ดูแลของเทศบาลเมืองแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ขณะเดินทางออกไปด้วยเรือขนาดเล็ก พบว่า ไม่ห่างจากแหล่งปะการังเทียมมี รูปลักษณะเหมือนเรือจมแต่หัวเรือโผล่ จึงได้เร่งความเร็วเข้าไปดู ปรากฏว่า เป็นวาฬ โผล่ขึ้นมาหายใจ และมีลักษณะเชื่อง เรือเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่ยอมหนีแต่อย่างใด
นายเอกศักดิ์ เสริมศรี พรานทะเล เปิดเผยว่า การดำน้ำลงไปยิงปลามีเวลาเฉพาะหัวน้ำขึ้น และหัวน้ำลงเท่านั้น เพราะน้ำไม่เชี่ยวสามารถว่ายน้ำเลือกยิงปลาที่รุมตอมปะการังเทียมได้ และยังสามารถดำเลือกหาเฉพาะปลาตัวใหญ่ๆ เท่านั้น
ส่วนปลาเล็กระยะนี้ไม่ได้รับความสนใจมากนัก เนื่องจากปลาใหญ่หลายชนิดเข้ามาจำนวนมาก มาเป็นฝูงหนาทึบจนมองไม่เห็นพื้นทรายใต้ทะเล เป็นภาพที่งดงามมาก ปลาเล็กใหญ่เวียนว่ายกันอยู่รอบเสาหินปะการังเทียม จึงได้เลือกยิงเฉพาะปลากะพงขนาดใหญ่เท่านั้น ได้มาเพียง 6 ตัวๆ ละ เกือบ 10 กิโลกรัม เนื่องจากวันนี้ออกไปช้าทำให้ช่วงเวลาของน้ำมีการเปลี่ยนแปลง น้ำเริ่มเชี่ยวกราก เกรงเป็นอันตรายต่อชีวิต จึงได้เลือกยิงได้มาเพียง 6 ตัว น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม
นายเอกศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการที่ดำน้ำยิงปลา พบว่า แหล่งปะการังเทียม ได้เสียหายไปอย่างมาก บางกองมีอวนติดอยู่จำนวนมาก บางกลุ่มจมหายลงไปในพื้นทรายทำให้แหล่งปะการังเทียมเริ่มเสื่อมโทรม มีคนเข้าไปแสวงหาประโยชน์ โดยเฉพาะเรืออวนลากผ่าเข้าไปยังกองแท่งปูนจนล้มระเนระนาด ทั้งหมดมี 8 กลุ่ม แต่ตอนนี้ล้มจมทรายเหลือเพียง 3 กลุ่มเท่านั้น ถ้าขืนล่อยไว้ก็จะทำให้เกิดเรื่องทำนองนี้บ่อย จนทำให้แหล่งปะการังเทียมเสียหาย สัตว์ทะเลไม่เข้ามาพักอาศัย หรือวางไข่อีกต่อไป
นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับคำยืนยันจากนักตกปลาแล้วว่า วาฬดังกล่าว ยังวนเวียนอยู่ในย่านหาดบางแสน-แหลมแท่น ใกล้กับแหล่งปะการังเทียมเพื่อหาปลากินง่ายกว่าที่อื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายการท่องเที่ยวใหม่ อีกทั้งนำข้อมูลมาเป็นแนวทาง และความเป็นไปได้ในการพัฒนา เพิ่มเติมด้านการส่งเสริมท่องเที่ยว หากกลุ่มวาฬชุดนี้จะกลับมาอีกครั้ง
ส่วนทางด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ แหล่งพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ทางเทศบาลเคยนำเอาวัสดุสิ่งเหลือใช้มาทิ้ง หรือที่เรียกว่า ปะการังเทียม ที่บริเวณที่กลุ่มวาฬมานั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากที่ได้มีสัตว์น้ำเข้ามาอาศัยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ในช่วงของเดือนตุลาคมนี้ และยิ่งกว่า นับว่าเป็นความโชคดีของชาว จังหวัดชลบุรี ที่ วาฬกลุ่มนี้เข้ามาให้ได้พบเห็นแบบใกล้ชิด ซึ่งจังหวัดชลบุรีไม่เคยพบวาฬ ตัวเป็นๆมาแหวกว่ายหาอาหารกินให้เห็นเลยสักครั้งเดียว
ที่สำคัญ จะต้องสอดส่องดูแลเรืออวนลาก เรืออวนล้อมที่มักเข้าไปลากในบริเวณแหล่งปะการังเทียม ทราบว่าตอนนี้มีความเสียหายไปบ้างแล้วจำนวนมาก ต้องส่งเจ้าหน้าที่ดำสำรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นปะการังเทียมจะจมลงพื้นทรายหมด