ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นำฝูงเครื่องบินรบ-ลำเลียง 10 ลำสร้างปะการังเทียมที่ภูเก็ตคืบ หน้าออกเดินทางจากจังหวัดลพบุรี 18 เม.ย.กำหนดวาง 5 พ.ค.นี้ หวังสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำแห่งใหม่
สำหรับความคืบหน้าการนำเครื่องบินรบและเครื่องบินลำเลียงซึ่งผ่านสมรภูมิสงครามเกาหลี 10 ลำมาสร้างปะการังเทียมที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ล่าสุด วันนี้ (4 เม.ย.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงทะเล นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดสร้างปะการังเทียม (ฝูงบินเพื่อทะเล) เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำภูเก็ต โดยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เช่น นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายก อบต.เชิงทะเล นายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ นายไพทูล แพนชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (ภูเก็ต) ตัวแทนจากการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต เป็นต้น
นายวรพจน์ กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก และเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหา ลดผลกระทบความเสื่อมโทรมจากการใช้ประโยชน์ของแนวปะการัง และเพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และระบบนิเวศทางทะเล
โดยเฉพาะแนวปะการังในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้มีแนวทางในการดำเนินการจัดหาวัสดุต่างๆ ได้แก่ ซากเครื่องบิน ตู้รถไฟ เรือ และอื่นๆ นำมาสร้างเป็นปะการังเทียมสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของภูเก็ตในพื้นที่อ่าวต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต
จากการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างเห็นด้วยกับโครงการนี้ และกำหนดให้มีการนำเครื่องบินที่ปลดประจำการและได้รับการอนุมัติจากกองทัพอากาศมาดำเนินการ 10 ลำ ได้แก่เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ดาโกต้า Douglas C-47 Skytrain จำนวน 4 ลำและเฮลิคอปเตอร์แบบ 4ก (ฮ.4ก) Sikorsky S-58T จำนวน 6 ลำ ที่บริเวณอ่าวบางเทา ในวันที่ 5 พฤษภาคม นี้ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามาเป็นประธาน
นายวรพจน์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการกำหนดจะทำการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินและเฮลิคอบเตอร์ดังกล่าวออกจากจังหวัดลพบุรีในวันที่ 18 เมษายนนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 3 วันในการเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต หลังจากนำเครื่องบินมาถึงจะนำไปทำการประกอบที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะลำเลียงมายังจุดที่จะทำการจมที่บริเวณหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ต่อไป
ด้าน นายมาโนช กล่าวว่า ในช่วงที่จะมีการนำเครื่องบินมาจมนั้นก็จะมีการจัดกิจกรรมภาคบันเทิงในลักษณะของมินิคอนเสิร์ตเพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมด้วยและอาจจะมีการนำเอาเครื่องบินมาจัดแสดงนิทรรศการให้ได้รับทราบถึงรายละเอียดที่จะดำเนินการต่าง ๆ โดยจะใช้มืออาชีพในการทำประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้รับรู้กันอย่างทั่วถึงทั้งในส่วนของกลุ่มผู้ดำน้ำและประชาชนทั่วไป
ในการจัดงานนั้นก็จะมีการจัดขายบัตรสำหรับกลุ่มดำน้ำ เพื่อนำรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมาจัดตั้งเป็นกองทุนในการดูแลทรัพยากรทางทะเลบริเวณอ่าวบางเทา รวมไปถึงการจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความตระหนักในการดูแลรักษาทรัพยากรชายฝั่งและป้องกันการเข้ามาทำลายปะการังเทียมของเรืออวนลากอวนรุน หรือการใช้เครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมาย
สำหรับความคืบหน้าการนำเครื่องบินรบและเครื่องบินลำเลียงซึ่งผ่านสมรภูมิสงครามเกาหลี 10 ลำมาสร้างปะการังเทียมที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ล่าสุด วันนี้ (4 เม.ย.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงทะเล นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดสร้างปะการังเทียม (ฝูงบินเพื่อทะเล) เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำภูเก็ต โดยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เช่น นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายก อบต.เชิงทะเล นายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ นายไพทูล แพนชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (ภูเก็ต) ตัวแทนจากการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต เป็นต้น
นายวรพจน์ กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก และเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหา ลดผลกระทบความเสื่อมโทรมจากการใช้ประโยชน์ของแนวปะการัง และเพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และระบบนิเวศทางทะเล
โดยเฉพาะแนวปะการังในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้มีแนวทางในการดำเนินการจัดหาวัสดุต่างๆ ได้แก่ ซากเครื่องบิน ตู้รถไฟ เรือ และอื่นๆ นำมาสร้างเป็นปะการังเทียมสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของภูเก็ตในพื้นที่อ่าวต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต
จากการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างเห็นด้วยกับโครงการนี้ และกำหนดให้มีการนำเครื่องบินที่ปลดประจำการและได้รับการอนุมัติจากกองทัพอากาศมาดำเนินการ 10 ลำ ได้แก่เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ดาโกต้า Douglas C-47 Skytrain จำนวน 4 ลำและเฮลิคอปเตอร์แบบ 4ก (ฮ.4ก) Sikorsky S-58T จำนวน 6 ลำ ที่บริเวณอ่าวบางเทา ในวันที่ 5 พฤษภาคม นี้ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามาเป็นประธาน
นายวรพจน์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการกำหนดจะทำการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินและเฮลิคอบเตอร์ดังกล่าวออกจากจังหวัดลพบุรีในวันที่ 18 เมษายนนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 3 วันในการเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต หลังจากนำเครื่องบินมาถึงจะนำไปทำการประกอบที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะลำเลียงมายังจุดที่จะทำการจมที่บริเวณหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ต่อไป
ด้าน นายมาโนช กล่าวว่า ในช่วงที่จะมีการนำเครื่องบินมาจมนั้นก็จะมีการจัดกิจกรรมภาคบันเทิงในลักษณะของมินิคอนเสิร์ตเพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมด้วยและอาจจะมีการนำเอาเครื่องบินมาจัดแสดงนิทรรศการให้ได้รับทราบถึงรายละเอียดที่จะดำเนินการต่าง ๆ โดยจะใช้มืออาชีพในการทำประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้รับรู้กันอย่างทั่วถึงทั้งในส่วนของกลุ่มผู้ดำน้ำและประชาชนทั่วไป
ในการจัดงานนั้นก็จะมีการจัดขายบัตรสำหรับกลุ่มดำน้ำ เพื่อนำรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมาจัดตั้งเป็นกองทุนในการดูแลทรัพยากรทางทะเลบริเวณอ่าวบางเทา รวมไปถึงการจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความตระหนักในการดูแลรักษาทรัพยากรชายฝั่งและป้องกันการเข้ามาทำลายปะการังเทียมของเรืออวนลากอวนรุน หรือการใช้เครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมาย