ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปัญหาที่ดิน ม.เกษตรฯศรีราชา เริ่มบานปลาย หลังพบมีข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน แต่ขณะนี้ปล่อยให้ภาคเอกชนเข้าไปบุกรุกและปรับถมพื้นที่
จากกรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนว่าที่ดินบริเวณถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา ติดรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีนายทุนกำลังปรับและถมดิน จึงได้มีการเดินทางไปตรวจสอบ พบมีการปรับพื้นที่จริง จึงสอบถามถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบถึงการดำเนินการดังกล่าว
โดย รองศาสตร์ตราจารย์ วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของเอกชนส่วนหนึ่งและเป็นของมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งและล่าสุดได้มีการชี้แนวเขตและลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินตามโครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดินเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2551
โดยพบว่าที่ดินของมหาวิทยาลัยบางส่วนไปอยู่ในวงล้อมของที่ดินเอกชน ประมาณ 4 ไร่เศษ เนื่องจากมีนายทุนเข้าไปซื้อสิทธิการครอบครองที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวจากแปลงเล็กๆ หลายเจ้าของกลายเป็นที่แปลงใหญ่แปลงเดียวทำให้ที่ดินของมหาวิทยาลัยไปอยู่ในวงล้อมของที่ดินเอกชน ซึ่งไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้ จึงมีการแลกเปลี่ยนกัน โดยทางมหาวิทยาลัย ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมากว่า 4 ไร่ จึงทำการแลกเปลี่ยนดังกล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงของอำเภอศรีราชา เผยถึงที่ดินบริเวณมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่าในอดีตที่ผ่านมานั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ทุ่งเลี้ยงสัตว์ (เขาน้ำซับ) มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 400 ไร่ โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปขอใช้ที่ดิน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, เทศบาลตำบลแหลมฉบัง, เทศบาลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี, โรงพยาบาลอ่าวอุดม โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอใช้พื้นที่มากที่สุดจำนวน 200 กว่าไร่
ในช่วงอดีตที่ผ่านมาที่ดินแปลงดังกล่าวมีการขอวัดเพื่อขอออก นสล.แต่ได้มี นายเบี้ยว ขำเจริญ ชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวได้ออกมาคัดค้านการขอออกเอกสาร ทำให้เรื่องดังกล่าวต้องหยุดชะงัก และปล่อยให้ปัญหายืดยื้อมาจนถึงทุกวันนี้
ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนและนายทุนวิ่งเต้นเพื่อขอออกเอกสารสิทธิ์ แต่เมื่อมาตรวจสอบถึงรายละเอียดของที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่า ยังมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานราชการกับภาคเอกชน เมื่อช่วงปี 2527 ที่ผ่านมา จึงไม่สามารถกระทำอะไรได้ในที่ดินแปลงนี้
ล่าสุด ที่ดินดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของราชพัสดุ ซึ่งใครจะเข้าไปใช้พื้นที่ต้องได้รับอนุญาตจากราชพัสดุเสียก่อน โดยขณะนี้ผู้ปกครองท้องที่ไม่ลงนามระหว่างแนวเขต เนื่องจากมีกรณีพิพาทในที่ดินบริเวณดังกล่าว