ศูนย์เตือนภัยเปิดงาน “สู้ภัยธรรมชาติ” เตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปลัดกระทรวงไอซีทีเปิดงาน “เตรียมตัว พร้อมใจ สู้ภัยธรรมชาติ” นำร่องในภูมิภาคแห่งแรกที่เชียงใหม่ โชว์ไฮไลต์ห้องจำลองแผ่นดินไหวเสมือนจริง มุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติลดการสูญเสีย ขณะที่ “สมิทธ” ระบุการเตรียมพร้อมประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญนอกเหนือจากการแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ

วันนี้ (24 ก.ย.) นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วยนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผูว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันทำพิธีเปิดงาน“เตรียมตัว พร้อมใจ สู้ภัยธรรมชาติ” ที่ลานม่วนใจ๋ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.51 มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมจำนวนมาก

การจัดงานครั้งนี้เป็นการนำร่องจัดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ อันจะเป็นแนวทางในการเตรียมรับมือกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก หรือไฟป่า อันอาจจะเกิดขึ้นได้ในสภาพอากาศและธรรมชาติที่แปรปรวน ซึ่งภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีไฮไลต์อยู่ที่ห้องจำลองสถานการณ์แผ่นดินไหวเสมือนจริง

ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ปัจจุบันภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงและแนวโน้มเกิดขึ้นถี่มากกว่าเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศและธรรมชาติที่แปรปรวน ดังนั้น การเตรียมความพร้อมประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ความเข้าใจในการที่จะรับมือได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์จริง จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ประชาชน เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์จริงได้ ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ โดยเฉพาะในการรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวที่พื้นที่ภาคเหนือ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก เพื่อจะช่วยลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด

ขณะที่ นายสมิทธ กล่าวว่า การแจ้งเตือนภัยที่จะได้ผลอย่างดีจำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ข้อมูลที่แน่นอนรวดเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำ และการแจ้งเตือนอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงให้มีองค์ความรู้ในการที่จะรับมือ และเอาตัวรอดจากสถานการณ์ได้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการทำให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยธรรมชาติมากขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างเท่าทัน

ด้าน นายอดิศร ฟุ้งขจร หัวหน้ากลุ่มแผ่นดินไหว ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ภาคเหนือถือว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นในการที่จะเกิดแผ่นดินไหว เพราะหลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว 9.3 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เมื่อ 26 ธ.ค.47 และทำให้เกิดสึนามิ ได้เป็นการกระตุ้นให้รอยเลื่อนต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทยและภาคเหนือ

ที่ผ่านมาได้มีการแสดงผลอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเกิดแผ่นดินไหวที่มีความถี่สูงขึ้น แม้จะยังไม่ถึงขั้นรุนแรงแต่ก็เป็นเหมือนสิ่งบอกเหตุ เพราะแผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ การติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้พร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง