ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตรียมนำร่องจัดงาน “เตรียมตัว พร้อมใจ สู้ภัยธรรมชาติ” ในภูมิภาคที่เชียงใหม่ 24-27 ก.ย.2551 ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ประชาชนรับมือภัยธรรมชาติ-ช่วยลดการสูญเสีย “สมิทธ” ชี้ ภาคเหนือเสี่ยงสูงแผ่นดินไหว ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ขณะที่ปรากฏการณ์วาฬยักษ์ 4 ตัวโผล่กลางหาดบางแสน ยังบอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
วันนี้ (22 ก.ย.) ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดการแถลงข่าวการเตรียมจัดงาน “เตรียมตัว พร้อมใจ สู้ภัยธรรมชาติ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย.2551 ที่ลานม่วนใจ๋ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่
การจัดงานครั้งนี้เป็นการนำร่องจัดขึ้นครั้งแรก ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ อันจะเป็นแนวทางในการเตรียมรับมือกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก หรือไฟป่า อันอาจจะเกิดขึ้นได้ในสภาพอากาศและธรรมชาติที่แปรปรวน ซึ่งการจัดงานจะมีการจัดนิทรรศการ และการจำลองสถานการณ์จริงด้วย
นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการให้องค์ความรู้ และเตรียมความพร้อมประชาชนให้สามารถรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์จริง ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถือว่ามีความใกล้ตัวกับประชาชนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะโลกร้อนและธรรมชาติที่แปรปรวน ทำให้เกิดภัยธรรมชาติถี่และรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ยกตัวอย่างล่าสุด เช่น กรณีพายุนาร์กิสในพม่า หรือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจีน เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพราะเป็นที่ตั้งอยู่ของรอยเลื่อนแผ่นดินที่ยังคงมีพลังอยู่หลายแห่ง ขณะเดียวกัน ยังมีความเสี่ยงเรื่องฝนตกหนัก น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม หมอกควัน ภัยแล้ง และพายุฤดูร้อน เป็นต้น ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น การจัดงานในครั้งนี้จึงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเตรียมพร้อมให้ประชาชนมีองค์ความรู้ ในการรับมือกับภัยธรรมชาติต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้ ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 9.3 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 และทำให้เกิดสึนามิ ได้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับรอยเลื่อนในประเทศไทย 13 แห่งด้วย โดยเปรียบเสมือนการทำให้แก้วที่มีรอยร้าวอยู่แล้วมีรอยร้าวขยายตัวมากขึ้น เห็นได้จากการเกิดแผ่นดินไหวที่ถี่ขึ้น แม้จะยังไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ
ส่วนกรณีปรากฏการณ์ที่มีวาฬยักษ์ 4 ตัว ว่ายน้ำเข้าไปบริเวณหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี จะเป็นการส่งสัญญาณการเกิดภัยธรรมชาติหรือไม่นั้น นายสมิทธ กล่าวว่า ตัวเองไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในจีนมีการสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เชื่อมโยงกับการเกิดภัยธรรมชาติอยู่เหมือนกัน เพราะเชื่อว่าสัตว์อาจมีสัมผัสบางอย่างที่รู้ล่วงหน้า ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติ ทั้งนี้เมื่อครั้งเกิดสึนามิก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว จากการที่ช้างที่ผูกไว้กระชากเชือกที่ผูกไว้แล้วหนีขึ้นภูเขาก่อนที่เกิดคลื่นยักษ์พัดถล่ม
ขณะที่ นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การเกิดภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถห้ามได้ แต่สามารถเตรียมการให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดได้ ทั้งโดยการเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการจัดงาน “เตรียมตัว พร้อมใจ สู้ภัยธรรมชาติ” ที่กำลังจะจัดขึ้นนั้น นับเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยธรรมชาติต่างๆ มากขึ้น เพื่อที่จะได้สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทุกเวลา
