กาฬสินธุ์ - ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้รับรางวัลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดีเด่น 12 แห่ง กำลังถูกรังควานจากกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคนของบิ๊กท้องถิ่นจังหวัด ที่จัดหาเครื่องใช้สำนักงานและศูนย์เด็กเล็กฯ มายัดเยียดให้ในราคาแพงเฉียดครึ่งล้าน แถมข่มขู่หากไม่ให้ความร่วมมือระวังเจอดี
นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโคกศรี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวน 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 เข้ามาพบที่สำนักงาน โดยอ้างตนว่าได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ (นายโสภณ ชาเรืองฤทธิ์) ให้นำเครื่องอำนวยความสะดวกประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำนักงาน โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำเย็น มาเสนอขายให้ในราคา 370,000 บาท (สามแสนเจ็ดหมื่นบาท)
ทั้งนี้ เพื่อขอความร่วมมือที่ได้รับรางวัลจากการประกวดโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดีเด่น ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลแห่งละ 450,000-600,000 บาท ให้การอุดหนุนสินค้า เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ที่ผู้ใหญ่ในสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ตัดสินให้ได้รับรางวัลดังกล่าว
นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้พยายามที่จะยัดเยียดสินค้าให้ตนซื้อ พร้อมเสนอส่วนลดให้ 20% แต่ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขนาดนั้น และอีกประการหนึ่ง คือ ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ก็มีเครื่องทำน้ำเย็นอยู่แล้ว ถึงแม้ที่ใช้อยู่จะมีราคาเพียงไม่กี่พันบาท แต่ก็สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เห็นจะต้องซื้อของใหม่ในราคาที่แพงขนาดนี้ จึงปฏิเสธที่จะรับซื้อ
จึงถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวขู่ว่า ถ้าเทศบาลโคกศรีไม่รับซื้อสินค้าจากพวกตน หากท้องถิ่นจังหวัดมีการประกวดโครงการต่างๆ จะไม่ได้รับการเสนอชื่อหรือไม่ได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ในระดับจังหวัดอีก
เงินรางวัลที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของเราจะได้รับจำนวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาท) นั้น หากนำมาจัดซื้อเครื่องทำน้ำเย็นในราคาดังกล่าวแล้วจะเหลืออะไร ไหนบอกว่าต้องการให้ อปท.ที่ได้รับรางวัลนำเงินรางวัลมาพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้ดีขึ้น ทั้งด้านอาคาร สถานที่ สื่อการเรียนการสอน เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้ประสานไปยังอปท.อีก 11 แห่ง ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในโครงการเดียวกันก็ได้รับคำตอบว่าต่างก็ถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปยัดเยียดและข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน แต่ตนไม่ทราบว่ามีใครรับซื้อหรือไม่
แต่สำหรับตนไม่ยอมซื้อแน่นอน เพราะต้องการที่จะนำเงินรางวัลมาพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มิใช่นำมาซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ของพวกเหลือบสังคม ที่จัดตั้งเป็นขบวนการและแอบแฝงมากับโครงการที่ทางจังหวัดจัดขึ้น
ด้าน นายบุญสินธุ์ วันวิเศษ นายก อบต.โพนงาม อ.กมลาไสย ที่ศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ได้รับรางวัลทั้งประเภทศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบดีเด่นและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขนาดกลาง ที่จะได้รับเงินรางวัลแห่งละ 450,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 900,000 บาท กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งตนได้รับการติดต่อจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ให้นำอุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงานและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมาเสนอขาย
โดยติดต่อทั้งทางโทรศัพท์และติดต่อด้วยตนเอง แต่ตนไม่สนใจและไม่เปิดโอกาสให้พบ และรู้สึกไม่ดีเลยที่มีพวกเหลือบแอบแฝงมาหาผลประโยชน์จากงบประมาณหลวงอย่างนี้ จึงขอวอนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
ขณะที่ นายโสภณ ชาเรืองฤทธิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ตนไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ แต่ก็พอที่จะรู้ว่าได้มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างชื่อสำนักงานท้องถิ่นไปเป็นเครื่องมือหากินจริง ซึ่งได้สร้างความเสื่อมเสียมาสู่องค์กรเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากอปท.ใดพบเห็นกลุ่มบุคคลดังกล่าว สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที
สำหรับโครงการประกวดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดีเด่น เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมอบหมายให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกในช่วงเดือนสิงหาคม และประกาศผลเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบดีเด่น 1 รางวัลๆ ละ 450,000 บาท ประเภทขนาดเล็ก 3 รางวัลๆละ 450,000 บาท ประเภทขนาดกลาง 6 รางวัลๆ ละ 500,000 บาทและประเภทขนาดใหญ่ 2 รางวัลๆ ละ 600,000 บาท
รวมมีศูนย์เด็กเล็กเข้าประกวด 44 แห่ง และผลการตัดสินมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ชนะเลิศจำนวน 12 แห่ง รวมเงินรางวัล 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน) จึงเป็นช่องทางให้พวกเหลือบที่แฝงตัวในองค์กรหรือในสังคม ถือเป็นโอกาสสวมรอยเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินรางวัล ที่หากไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว สักวันก็อาจจะถูกกระชากหน้ากากว่าในขบวนการเหลือบดังกล่าวเป็นใคร หรือมีผู้ใหญ่ในองค์กรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโคกศรี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวน 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 เข้ามาพบที่สำนักงาน โดยอ้างตนว่าได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ (นายโสภณ ชาเรืองฤทธิ์) ให้นำเครื่องอำนวยความสะดวกประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำนักงาน โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำเย็น มาเสนอขายให้ในราคา 370,000 บาท (สามแสนเจ็ดหมื่นบาท)
ทั้งนี้ เพื่อขอความร่วมมือที่ได้รับรางวัลจากการประกวดโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดีเด่น ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลแห่งละ 450,000-600,000 บาท ให้การอุดหนุนสินค้า เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ที่ผู้ใหญ่ในสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ตัดสินให้ได้รับรางวัลดังกล่าว
นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้พยายามที่จะยัดเยียดสินค้าให้ตนซื้อ พร้อมเสนอส่วนลดให้ 20% แต่ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขนาดนั้น และอีกประการหนึ่ง คือ ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ก็มีเครื่องทำน้ำเย็นอยู่แล้ว ถึงแม้ที่ใช้อยู่จะมีราคาเพียงไม่กี่พันบาท แต่ก็สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เห็นจะต้องซื้อของใหม่ในราคาที่แพงขนาดนี้ จึงปฏิเสธที่จะรับซื้อ
จึงถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวขู่ว่า ถ้าเทศบาลโคกศรีไม่รับซื้อสินค้าจากพวกตน หากท้องถิ่นจังหวัดมีการประกวดโครงการต่างๆ จะไม่ได้รับการเสนอชื่อหรือไม่ได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ในระดับจังหวัดอีก
เงินรางวัลที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของเราจะได้รับจำนวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาท) นั้น หากนำมาจัดซื้อเครื่องทำน้ำเย็นในราคาดังกล่าวแล้วจะเหลืออะไร ไหนบอกว่าต้องการให้ อปท.ที่ได้รับรางวัลนำเงินรางวัลมาพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้ดีขึ้น ทั้งด้านอาคาร สถานที่ สื่อการเรียนการสอน เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้ประสานไปยังอปท.อีก 11 แห่ง ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในโครงการเดียวกันก็ได้รับคำตอบว่าต่างก็ถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปยัดเยียดและข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน แต่ตนไม่ทราบว่ามีใครรับซื้อหรือไม่
แต่สำหรับตนไม่ยอมซื้อแน่นอน เพราะต้องการที่จะนำเงินรางวัลมาพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มิใช่นำมาซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ของพวกเหลือบสังคม ที่จัดตั้งเป็นขบวนการและแอบแฝงมากับโครงการที่ทางจังหวัดจัดขึ้น
ด้าน นายบุญสินธุ์ วันวิเศษ นายก อบต.โพนงาม อ.กมลาไสย ที่ศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ได้รับรางวัลทั้งประเภทศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบดีเด่นและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขนาดกลาง ที่จะได้รับเงินรางวัลแห่งละ 450,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 900,000 บาท กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งตนได้รับการติดต่อจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ให้นำอุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงานและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมาเสนอขาย
โดยติดต่อทั้งทางโทรศัพท์และติดต่อด้วยตนเอง แต่ตนไม่สนใจและไม่เปิดโอกาสให้พบ และรู้สึกไม่ดีเลยที่มีพวกเหลือบแอบแฝงมาหาผลประโยชน์จากงบประมาณหลวงอย่างนี้ จึงขอวอนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
ขณะที่ นายโสภณ ชาเรืองฤทธิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ตนไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ แต่ก็พอที่จะรู้ว่าได้มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างชื่อสำนักงานท้องถิ่นไปเป็นเครื่องมือหากินจริง ซึ่งได้สร้างความเสื่อมเสียมาสู่องค์กรเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากอปท.ใดพบเห็นกลุ่มบุคคลดังกล่าว สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที
สำหรับโครงการประกวดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดีเด่น เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมอบหมายให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกในช่วงเดือนสิงหาคม และประกาศผลเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบดีเด่น 1 รางวัลๆ ละ 450,000 บาท ประเภทขนาดเล็ก 3 รางวัลๆละ 450,000 บาท ประเภทขนาดกลาง 6 รางวัลๆ ละ 500,000 บาทและประเภทขนาดใหญ่ 2 รางวัลๆ ละ 600,000 บาท
รวมมีศูนย์เด็กเล็กเข้าประกวด 44 แห่ง และผลการตัดสินมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ชนะเลิศจำนวน 12 แห่ง รวมเงินรางวัล 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน) จึงเป็นช่องทางให้พวกเหลือบที่แฝงตัวในองค์กรหรือในสังคม ถือเป็นโอกาสสวมรอยเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินรางวัล ที่หากไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว สักวันก็อาจจะถูกกระชากหน้ากากว่าในขบวนการเหลือบดังกล่าวเป็นใคร หรือมีผู้ใหญ่ในองค์กรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
