ม็อบข้าวโพด ชร.ปักหลักปิดถนนเข้า ชม.-เด็ก พปช.ถือโอกาสหาเสียง-ถล่ม พธม.

เชียงราย – ม็อบข้าวโพดยันปักหลักกลางถนนเชื่อมเชียงใหม่-เชียงรายจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง ขณะที่ นอภ.-ส.ส.พปช.เปิดหน้าเจรจาไร้ผล แถม “สุรสิทธิ์” ถือโอกาสหาเสียง พร้อมเหน็บ “พันธมิตรฯ” ซ้ำ

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจากพื้นที่ ต.สันสลี ต.ป่างิ้ว ต.เวียง ต.บ้านโป่ง ต.เวียงกาหลง ต.แม่เจดีย์ และ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ออกมาชุมนุมประท้วงปิดถนนเชื่อมเชียงราย-เชียงใหม่ บริเวณตัว อ.เวียงป่าเป้า ตั้งแต่ 09.30 น.วันนี้ (22 ก.ย.) และจนถึงขณะนี้สถานการณ์การชุมนุมก็ยังไม่คลี่คลาย แม้ว่านายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอเวียงป่าเป้า และ นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคพลังประชาชนซึ่งมีฐานเสียงในพื้นที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอที่เกี่ยวข้องได้รุดเจรจากับตัวแทนกลุ่มชาวบ้านแต่ไม่เป็นผลนั้น

นายจิระพงษ์ เกียรติจิระกุล แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลุกข้าวโพด อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย หนึ่งในแกนนำกลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า เกษตรกร อ.เวียงป่าเป้า ปลูกข้าวโพดรวมกันมากกว่า 70,000 ไร่ ผลผลิตมากกว่า 48,000 ตัน ผู้ปลูกข้าวโพดแต่ละรายมีต้นทุนในการปลูกต่อไร่ประกอบไปด้วยค่าเช่าที่ดิน 300 บาท ค่าถางและปรับที่ดิน 600 บาท ค่าซื้อเมล็ดพันธุ์ 3 กิโลกรัมเป็นเงินรวม 360 บาท ค่าจ้างปลูก 300 บาทต่อวัน ค่าปุ๋ยน้ำหนัก 25 กิโลกรัมเป็นเงิน 700 บาท ค่าแรงใส่ปุ๋ยอีก 150 บาท ฯลฯ เมื่อรวมค่าขนส่งและอื่นๆ แล้วจะมีต้นทุนต่อไร่เป็นเงิน 4,460 บาทต่อฤดูกาล

แต่ปรากฎว่า ราคาข้าวโพดความชื้น 28-30% ที่ขายได้ในปัจจุบันคือกิโลกรัมละประมาณ 4.50 บาท โดยแต่ละไร่เก็บผลผลิตได้ประมาณ 800 กิโลกรัม จึงทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการขายไร่ละประมาณ 3,600 บาท ทำให้ขาดทุนไร่ละ 360 บาท

ขณะที่ นายสาคร สมยศ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากเรียกร้องกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ปรากฎว่าทางอำเภอแก้ไขให้ไม่ได้ ซ้ำยังไปห้ามปรามกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ให้ร่วมชุมนุมกับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก เพราะถือเป็นการขัดขวางการเรียกร้องของชาวบ้าน ทั้งที่อำเภอก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านได้ ซึ่งวันนี้หากข้อเรียกร้องไม่ประสบความสำเร็จก็จะปักหลักทำอาหารกันกลางถนนหามรุ่งหามค่ำกันเลยทีเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอเวียงป่าเป้า และนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ได้เข้าเจรจากับชาวบ้านโดยแจ้งว่าได้ประสานเอกชนที่ประกอบกิจการไซโลในพื้นที่ให้รับซื้อข้าวโพดความชื้น 30% จากชาวบ้านกิโลกรัมละ 5 บาท แต่ต้องนำข้าวโพดไปส่งที่ไซโลเอง แต่ชาวบ้านไม่พอใจโดยอ้างว่ามาจากหลากหลายพื้นที่ ต้องเสียต้นทุนเพิ่มเติมจากการขนข้าวโพดอีก

ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดไปเจรจาแทน เพราะระดับอำเภอคงช่วยไม่ได้แล้ว ทำให้นายชัยณรงค์ได้ประสานไปยังสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาแล้ว

ขณะเดียวกัน นายสุรสิทธิ์ กลับหาเสียงเอากับชาวบ้านโดยระบุว่า การชุมนุมของชาวบ้านเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ เพราะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ยึดทำเนียบรัฐบาลยังทำได้และผิดกฎหมาย รวมทั้งชาวบ้านในครั้งนี้ก็ไม่ได้พกพาไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล ฯลฯ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการช่วยเหลือก็ทำได้เพียงเท่านี้เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และยังไม่มีรัฐบาลดำเนินการ จึงขอให้ชาวบ้านใจเย็นๆ และเลิกการปิดถนน

รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่พอใจการชี้แจงและยืนยันจะให้มีการรับซื้อตามข้อเรียกร้องดังกล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มีนโยบายจะรับซื้อข้าวโพดกิโลกรัมละ 9 บาท ต่อความชื้น 14.5% ซึ่งคาดการณ์กันว่าหากเป็นความชื้น 28-30% จะได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 7 บาทซึ่งสูงกว่าที่ชาวบ้านเรียกร้องมาก แต่เนื่องจากไม่มีรัฐบาลดำเนินการจึงค้างคาจนถึงปัจจุบัน