ท่วมหนักสั่งปิดตายถนน “บุรีรัมย์-โคราช” เร่งอพยพสัตว์แหล่งท่องเที่ยวหนีน้ำ

บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์สั่งปิดถนนสายลำปลายมาศ-นครราชสีมา หลังน้ำเหนือไหลบ่าเอ่อท่วมสะพานสูงร่วม 1 เมตรและกระแสน้ำไหลเชี่ยว ให้ปชช.เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ล่าสุดน้ำเอ่อท่วมอุทยานลำน้ำมาศอย่างรวดเร็ว จนท.เร่งอพยพขนย้ายสัตว์กว่า 100 ตัวออกจากสวนสัตว์แหล่งท่องเที่ยวพร้อมสั่งปิดชั่วคราว เผยสิ่งปลูกสร้างภายในอุทยานฯได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1 ล้าน

วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดบุรีรัมย์ว่า น้ำเหนือจากเขาใหญ่ ลำปะเทีย และลำน้ำสาขาหลายแห่งได้ไหลมารวมกันที่ลำน้ำมาศ ทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และ เอ่อท่วมสะพาน ถนนเชื่อมต่อระหว่าง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กับ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ที่บริเวณ บ.ไผ่น้อย ต.หนองคู สูงเกือบ 1 เมตร เป็นระยะทางยาวร่วม 1 กิโลเมตร และกระแสน้ำไหลเชี่ยวรถยนต์สัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก

อีกทั้งระดับน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งปิดถนนบริเวณดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายและให้ประชาชนหันไปใช้เส้นทางอื่น เช่น ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม แทน จนกว่าน้ำจะลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติ

ล่าสุด น้ำได้เอ่อท่วมแหล่งท่องเที่ยวอุทยานลำน้ำมาศ ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ทางอำเภอร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตนตำบาล (อบต.)หนองคู ลงทุนปรับปรุงภูมิทัศน์ บนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้จมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพขนย้ายสัตว์ภายในสวนสัตว์กว่า 20 ชนิด เช่น กวาง หมูป่า แพะ ไก่ฟ้า นกยูง นกกระจอกเทศ อีกัวน่า และสัตว์อื่นๆ รวมกว่า 100 ตัว ไปเก็บไว้ที่ อบต.หนองคู วัดสง่าท่าชลนที และวัดอัมพะวัน ที่น้ำไม่สามารถท่วมถึง

โดยการขนย้ายสัตว์ออกมาก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากปริมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตรและบางจุดสูงถึง 2 เมตร จึงต้องใช้เรือในการขนย้าย อย่างไรก็ตามได้มีสัตว์ จำนวนหนึ่งที่ขนย้ายไม่ทันได้จมหายไปกับกระแสน้ำ นอกจากนี้ยังมีสิ่งปลูกสร้างอื่นภายในอุทยานฯ และร้านอาหาร ถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน

นายสถาพร ชุมอุปการ นายอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เผิดเผยว่า เบื้องต้นจากการประเมินค่าความเสียหายของแหล่งท่องเที่ยวอุทยานลำน้ำมาศ ที่ถูกน้ำท่วม ทั้งสิ่งปลูกสร้าง สะพาน และซุ้มที่พักจุดชมทิวทัศน์ทางธรรมชาติ แล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และขณะนี้ทางอำเภอได้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นการชั่วคราว จนกว่าปริมาณน้ำจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ และทำการบูรณะปรับปรุงแล้วเสร็จ จึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมอีกครั้ง

นายสถาพร กล่าวอีกว่า หากไม่มีฝนตกลงมาอีก หรือน้ำเหนือไม่ไหลมาสมทบก็คาดว่าประมาณ 1-2 สัปดาห์ ปริมาณน้ำในบริเวณอุทยานฯ จะลดลง แต่หากมีฝนตกหรือน้ำไหลบ่ามาอีก ก็ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ นอกจากนี้หลังน้ำลดลงแล้วคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการบูรณะปรับปรุงทั้งสิ่งปลูกสร้าง ภูมิทัศน์ ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วมเดือนจึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมตามปกติได้

ทั้งนี้ อุทยานลำน้ำมาศ แห่งนี้ในช่วงปกติที่เปิดให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมวันละเกือบ 500 คน หากเป็นวันหยุด หรือเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมร่วม 1,000 คน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่นำสิ่งของมาขายได้เป็นอย่างดี แต่ช่วงที่น้ำท่วมก็ต้องขาดรายได้ไปโดยปริยาย

“ขณะนี้ทางอำเภอได้แจ้งเตือนให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณริมลำน้ำมาศ ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอพยพขนย้ายสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงไปยังที่สูง เพราะเกรงว่าน้ำจะไหลบ่าลงมาอย่างรุนแรงจนทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อ.ลำปลายมาศครั้งนี้ ถือว่าท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี” นายสถาพร กล่าว