ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เขื่อนลำพระเพลิงโคราชปริมาณน้ำเพิ่มต่อเนื่อง เหลือเพียง 3 ล้าน ลบ.ม.ล้นเขื่อน ต้องเร่งระบายน้ำเพิ่มเป็นวันละกว่า 1.2 ล้าน ลบ.ม. พร้อมแจ้งเตือน ปชช.ใต้เขื่อนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลันตลอดเวลา ยันน้ำมากไม่กระทบต่อโครงสร้างความแข็งแรงของตัวเขื่อน
วันนี้ (18 ก.ย.) นายยุทธไกร พิกุล หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ล่าสุดระดับน้ำของอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนลำพระเพลิงวันนี้ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) อยู่ในระดับ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพิ่มเป็น 107.69 ล้าน ลบ.ม. จากขนาดความจุ 110 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 3 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น
ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำล้นเขื่อน จึงได้เร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1.26 ล้าน ลบ.ม. จากเดิมระบายน้ำวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นการระบายลงไปตามคลองส่งน้ำของชลประทาน และลำน้ำธรรมชาติ และอีกส่วนหนึ่งได้ระบายไปเก็บกักไว้ที่ลำสำลายซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่อยู่ใกล้เขื่อนลำพระเพลิง ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 12 ล้าน ลบ.ม.
รวมทั้งจากการตรวจสอบปริมาณน้ำที่ไหลลงเขื่อนลำพระเพลิงมีปริมาณลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ทางเขื่อนยังคงประกาศแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อน โดยเฉพาะ ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เขื่อนที่สุด ให้เตรียมความพร้อม ในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้เนื่องจากอาจมีฝนตกหนักลงมาอีก
นายยุทธไกร กล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำที่มีอยู่มากในเขื่อนลำพระเพลิงในขณะนี้ ขอยืนยันว่ายังไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างความแข็งแรงของเขื่อน เพราะเดิมทีเขื่อนได้ออกแบบให้สามารถรองรับน้ำได้มากถึง 150 ล้าน ลบ.ม. แต่ด้วยสภาพความตื้นเขินที่เขื่อนสร้างมานานหลายปี ทำให้ปัจจุบันจึงมีความจุน้ำได้สูงสุด 110 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น