นายจำลอง พินิจการ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง หลังตรวจสอบน้ำเต็มความจุของเขื่อนเรียบร้อยแล้ว และกำลังล้นออกทางสปิงเวย์ ไหลลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน ส่วนระดับในเขื่อนลำพระเพลิงในวันนี้ เพิ่มระดับสูงขึ้นจนเต็มความจุที่ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระดับน้ำในขณะนี้สูงเลยสปิงเวย์ประมาณ 30 เซนติเมตร ไหลลงสู่ทางระบายน้ำลงพื้นที่ท้ายเขื่อน ไปสมทบกับคลองชลประทาน เพื่อไปสบทบกับน้ำที่ทางเขื่อนระบายออกทางประตูน้ำท้ายเขื่อนที่อ่างเก็บน้ำลำสำลาย และไหลออกสู่คลองธรรมชาติ ซึ่งยังไม่ส่งผลมากนักกับพื้นที่ท้ายเขื่อน และยังไม่มีรายงานว่ามีน้ำท่วมบ้านเรือน รวมถึงไร่นาของประชาชน
นายจำลอง กล่าวอีกว่า หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีก ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง จำเป็นต้องระบายน้ำออกทางลำสำลายเพิ่มขึ้น และจะส่งผลกระทบให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรในเขต อ.ปักธงชัย ที่อยู่ใต้เขื่อนอย่างแน่นอน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากนี้ ซึ่งเชื่อว่าประสบการณ์ที่ประชาชนเคยประสบมาก่อนหน้านี้ รวมถึงความเข้มแข็งของชุมชน จะสอนให้รู้จักวิธีเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากฝนหยุดตก 3 - 4 วัน สถานการณ์ทุกอย่างก็คงจะกลับสู่ภาวะปกติ
นายจำลอง กล่าวอีกว่า หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีก ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง จำเป็นต้องระบายน้ำออกทางลำสำลายเพิ่มขึ้น และจะส่งผลกระทบให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรในเขต อ.ปักธงชัย ที่อยู่ใต้เขื่อนอย่างแน่นอน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากนี้ ซึ่งเชื่อว่าประสบการณ์ที่ประชาชนเคยประสบมาก่อนหน้านี้ รวมถึงความเข้มแข็งของชุมชน จะสอนให้รู้จักวิธีเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากฝนหยุดตก 3 - 4 วัน สถานการณ์ทุกอย่างก็คงจะกลับสู่ภาวะปกติ