xs
xsm
sm
md
lg

น้ำป่าสระบุรีทะลักท่วมนาข้าวอยุธยา - สำนักศิลปากรเร่งทำแนวป้องกันโบราณสถาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
ศูนย์ข่าวภูมิภาค - ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี เผยแม้มีน้ำใกล้เต็มอ่างเก็บน้ำ แต่เขื่อนยังรับน้ำได้เก็บไว้เป็นต้นทุนน้ำ ระบุปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ราษฎรด้านล่างเกิดจากน้ำป่า ไม่ใช่การพร่องน้ำของเขื่อน ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังวิกฤต ปริมาณน้ำขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนอาหาร และเครื่องดื่ม รวมทั้งป่วยเป็นโรคเครียด ขณะที่น้ำป่าจากสระบุรีทะลักท่วมนาข้าวอยุธยาเสียหายจำนวนมาก ด้านสำนักศิลปากรที่ 3 ทำแนวป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา

นายวินัย ถาวรนาน ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนรินทร์ว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำอยู่ร้อยละ 85 ยังรองรับน้ำได้ประมาณ 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และปีนี้เขื่อนต้องการน้ำต้นทุนอีกจำนวนมาก แม้จะมีพายุฝนเข้ามาอีกหลายระลอก ยังสามารถรับน้ำได้ ส่วนพื้นที่ตอนล่างที่อาจจะเกิดน้ำท่วมได้ในบางพื้นที่เป็นน้ำที่มาจากภูเขาสูงหรือน้ำป่า ไม่ใช่น้ำที่มาจากการปล่อยออกจากเขื่อนศรีนครินทร์แน่นอน

ด้าน นายธนา ปุษปวนิช นายอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ชาวบ้านตำบลหนองประดู่ และตำบลหนองฝ้าย ถูกน้ำป่าจากเขาป่าสงวนแห่งชาติเลาขวัญไหลผ่านพื้นที่ ทำให้ถนนสายบ้านประดู่เหลี่ยม-บ้านโป่งข่อย หมู่ 7 สัญจรลำบากและเสียหายบางส่วน ส่วนพืชผลการเกษตรเสียหายเล็กน้อย และขณะนี้สถานการณ์เป็นปกติแล้ว ทางอำเภอจะเร่งสรุปความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือทันที

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดปราจีนบุรี ชาวชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี ยังคงเดือดร้อนหนักชาวบ้านกว่า 300 ครอบครัว กำลังขาดน้ำอุปโภคบริโภค และเครียดจากสภาวะน้ำท่วม ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้ศูนย์การเรียนบ้านหนอกระทุ่ม อำเภอศรีมหาโพธิ ถูกน้ำท่วมและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่จังหวัดลพบุรียังคงวิกฤตหนักถูกน้ำท่วมเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว สถานการณ์ส่อแววรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนกว่า 500 ครัวเรือนเดือดร้อนหนัก ไฟฟ้าถูกตัดขาด ส่วนหนึ่งต้องอาศัยศาลาวัดพุคาและกลางเต้นพักริมถนน ซึ่งเป็นอยู่อย่างยากลำบาก

ส่วนที่จังหวัดสระบุรี น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ไหลลงคลองสาขาและคลองชลประทาน เข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโพสาวหาญ และตำบลโคกโพธิ์ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับจังหวัดสระบุรี ทำให้ข้าวของชาวนาที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

น้ำป่าจากสระบุรีทะลักท่วมนาข้าวอยุธยาเสียหาย

นอกจากนี้ ข้าวของชาวนาที่เพิ่งจะมีการปลูกก็ถูกน้ำท่วมด้วย ล่าสุดองค์การบริหารส่วนตำบลโพสาวหาญ เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น ขณะที่ชาวนาบางส่วน มีการว่าจ้างรถแบ็กโฮ เพื่อมาขุดดินทำคันป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่นาของต้น และชาวนาบางคนติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากที่นาของตนเอง เพราะยังมีหวังว่าหากสูบน้ำออกจากทุ่งนาได้หมด ข้าวที่กำลังใกล้จะเก็บเกี่ยวและถูกน้ำท่วม จะสามารถนำมาขายได้

ด้านนายอาณัฐพงษ์ ศักดิ์เจริญ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ลงไปตรวจสอบแบบปากต่อปาก เพราะเกรงว่าอาจมีการแจ้งความเสียหายเป็นเท็จ ซึ่งจะทำให้ ธ.ก.ส. เสียหาย นอกจากนี้ภายหลังเข้าสู่ภาวะปกติ จะประเมินความเสียหายให้แน่ชัด และหากเกษตรกรรายใดมีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม จนไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้กับ ธ.ก.ส.ได้ทัน ตนเองก็จะรวบรวมรายชื่อและความเสียหายเข้าไปยังบอร์ด ของ ธ.ก.ส. เพื่อขอความเห็นชอบในการพิจารณาอนุมัติพักชำระหนี้ ส่วนมาตรการอื่นสำหรับลูกค้าที่มีพื้นที่การเกษตรไม่เสียหายมากนัก ธ.ก.ส. จะให้บริการสินเชื่อเงินกู้มากกว่าร้อยละ 80 ของรายได้ผู้กู้เพื่อนำไปทำทุนประกอบอาชีพ

สำนักศิลปากรที่ 3 ทำแนวป้องกันน้ำท่วมโบราณสถาน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ (16 ก.ย.) เวลา 07.00 น. คนงานจำนวนมากของกรมศิลปากรได้เร่งตักทรายลงกระสอบเพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยตั้งเป้าจัดทำถุงทรายได้ได้วันละ 5,000 กระสอบ ไว้ใช้เสริมแนวเขื่อนชั่วคราวหน้า ซึ่งในปีที่ผ่านมาเคยใช้ทรายมากถึง 50,000 กระสอบ เพื่อป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานแห่งนี้

นายอเนก สีหามาตย์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กรมศิลปากรมีการแก้ไขปัญหาถาวร โดยในช่วงนี้กำลังมีการก่อสร้างเขื่อนถาวรป้องกันน้ำท่วมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2552 ซึ่งมีหลายจุดที่เสี่ยงที่น้ำอาจทะลักเข้ามาท่วมโบราณสถานได้ โดยคนงานจึงต้องเร่งผูกเหล็กเพื่อเทคอนกรีตทำเขื่อนกั้นน้ำด้านข้างทางทิศเหนือ จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อเขื่อนถาวรยังไม่แล้วเสร็จ การเตรียมความพร้อมของเขื่อนชั่วคราวจึงต้องรีบดำเนินการให้ทัน เพราะเหลือระดับน้ำอีกเพียง 30 เซนติเมตร น้ำเจ้าพระยาจะล้นตลิ่งท่วมพื้นที่โบราณสถานแล้วเช่นกัน

กรมอุตุนิยมวิทยา ยังคงประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย 29 จังหวัด ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น