ศูนย์ข่าวศรีราชา - พันธมิตรฯ ศรีราชา-ชลบุรี เชื่อกำลังใจผู้ชุมนุมกู้ชาติขับไล่รัฐบาลสัตว์นรกที่ทำเนียบรัฐบาล และสะพานมัฆวานรังสรรค์ ยังเข้มข้นและเข้มแข็งไม่มีย่อท้อเป็นแน่ ชี้การยืดเวลาโหวตนายกฯ เป็นระเบิดเวลาต่อรองการเป็นผู้นำในการบริหารเป็นประเทศที่ยังไม่ลงตัว ของ พปช.
นางกำไล (สงวนนามสกุล) สมาชิกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยศรีราชา-ชลบุรี เผยความคิดเห็นในการเลื่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปเป็นวันพุธที่ 17 กันยายน 2551 ว่า เป็นเพราะคนในพรรคพลังประชาชนยังไม่ลงตัวในการตัดสินว่าใครจะมานั่งบริหารประเทศ เพราะว่าคนในพรรคต่างต้องการครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จึงไม่สามารถตัดสินได้ในวันนี้
ทั้งนี้ เชื่อแน่ว่าอาจเป็นยืดระเบิดเวลาที่พรรคพลังประชาชนต้องการยืดเยื้อออกไป ซึ่งต้องมีการต่อรองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกันในพรรค เพราะหลายคนไม่เห็นด้วยที่จะชูนายสมัคร สุนทรเวช มานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งนี้เหตุผลทั้งหมดคนในพรรคพลังประชาชนไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่ทำเพื่อกลุ่มของตนเองและเพื่อประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น
ในส่วนของผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลสัตว์นรกที่ทำเนียบรัฐบาล และที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์นั้น เชื่อแน่ว่าทุกคนยังมีกำลังใจที่ดีและเข้มแข็ง เพราะการต่อสู้ยืนหยัดที่ผ่านมาเป็นเวลานาน แต่ทุกคนรู้บทบาทตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งการต่อสู้เพื่อประเทศชาติอย่างบริสุทธิ์ใจ คงไม่ทำให้ผู้ร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ เกิดความท้อแท้อย่างแน่นอน ซึ่งระหว่างคืนที่ผ่านมาแกนนำพันธมิตรได้ออกมาเรียกให้คนรักชาติออกมาเข้าร่วมชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมอีกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการกลับบ้านสลับสับเปลี่ยนกันไปบ้างก็ตาม
ด้าน นายกิตติ โตวิวัฒน์ พันธมิตรฯ ศรีราชาอีกคน เผยว่า จากเหตุการณ์นี้ทำให้สันนิษฐานได้ว่าขณะนี้ทางฝ่ายรัฐบาลเริ่มมีความแตกแยกกันทางภายในเนื่องจากการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ในการคัดเลือกตำแหน่งรัฐมนตรีในตำแหน่งต่าง ๆ ที่หลายกลุ่มไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ทำให้เกิดการแบ่งกลุ่มและไม่ยอมรับการเสนอชื่อของนายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ได้มีการแบ่งกลุ่มกันถึง 8-9 กลุ่ม แล้ว
“อีกทั้งการไม่เข้าร่วมประชุมสภาในครั้งนี้ของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการซื้อเวลาจะทำให้มีเวลาในการต่อรองที่จะให้คนในกลุ่มมีตำแหน่งในการตั้งรัฐมนตรีในชุดต่อไป เป็นการชี้ให้เห็นว่า เกมการเมืองของรัฐบาลชุดนี้มีแต่การแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่ฝ่ายพันธมิตรฯ ยืนยันไม่ยอมรับคนพรรคพลังประชาชนเสนอชื่อเข้าไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นายสมัคร เพราะใครก็แล้วแต่ที่ถูกเสนอชื่อเข้าไปก็จะไปทำหน้าที่ตามใบสั่ง การเมืองก็จะเป็นไปในรูปแบบเดิมอีก ดังนั้นสมควรแล้วที่จะมีการเมืองรูปแบบใหม่” นายกิตติ กล่าว