ศูนย์ข่าวศรีราชา - การท่องเที่ยวสัตหีบทรุดซ้ำ หลังตำรวจท่องเที่ยวพัทยาบุกจับ 11 กะเหรี่ยงคอยาว จุดขายการท่องเที่ยวเขาชีจรรย์ ตั้งข้อหาพลัดถิ่น ไม่แจ้งการย้ายส่งกลับภูมิลำเนาเดิม
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เผยว่า ได้รับการร้องเรียนและสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบขนกะเหรี่ยงคอยาวจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกหมู่บ้านสะท้อนถึงวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงคอยาวชั่วคราวให้พักอาศัยอยู่ที่บริเวณเขาแกะพระ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และจัดให้สิ่งของที่ผลิตจากฝีมือ และของใช้ชีวิตประจำวันของชาวกระเหรี่ยง ของที่ระลึกของชาวเขาเผ่าป่าตอง จากบ้านห้วยชมพู่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
โดยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวดังกล่าวคอยให้บริการกับนักท่องเที่ยวด้วยอัธยาศัยอันดียิ่ง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุวรรณ์ อุ่นอนันต์ สารวัตรสืบสวน ออกสืบสวนพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบบริเวณเชิงเขาชีจรรย์ จึงเข้าจับกุมได้ทั้งหมด 11 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 8 คน ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านเลขที่ 525 หมู่ที่ 9 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับได้ควบคุมตัวนายวีระศักดิ์ ใยนาจ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/3 หมู่ที่ 4 ตำบลหัวฝ้าย อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นนายทุน
จากการสอบสวนปากคำนายวีระศักดิ์ ใยนาจ ให้การว่าได้ปลูกกระต๊อบให้กระเหรี่ยงคอยาว ชาวเขาเผ่าป่าตอง จากบ้านห้วยชมพู่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมดได้พักอาศัยโดยจำลองเสมือนหนึ่งเป็นหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาว ต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เดินทางมาชมและร่วมถ่ายภาพ เพื่อเป็นการลดต้นทุนของนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งอันตรายในการเดินทาง เสียค่าใช้จ่ายสูง
กะเหรี่ยงมีความสามารถด้านดนตรี มีวิถีชีวิตที่น่าศึกษา จึงได้เช่าที่ดิน 2 ไร่เศษ สร้างเป็นหมู่บ้านรวิถีชีวิตของหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ให้คนไทยได้เข้าชมในราคาคนละ 20 บาท ชาวต่างชาติในราคาคนละ 100 บาท
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ออกทุนนำสินค้าพื้นเมืองของกะเหรี่ยงออกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างเดินทางมาชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีในพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก
หลังจากนั้น พ.ต.ท.สุวรรณ์ ได้นำตัวกะเหรี่ยงคอยาวมาส่งให้ พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ซื่อกำเนิด สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ทำการบันทึกปากคำ พร้อมตั้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ไม่แจ้งการย้าย หรือการเปลี่ยนแปลงที่พักอาศัย
ต่อเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนนายวีระศักดิ์ ใยนาจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือ ช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม