ฉะเชิงเทรา - ผบก.แปดริ้วหวิดสิ้นชื่อหลังนายเวรขับรถประจำตำแหน่ง พาซิ่งผ่าสัญญาณไฟแดงทางแยก เสยท้ายรถชาวบ้านขณะเลี้ยวกลับรถพังยับ ส่งผลมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ขณะเจ้าตัวปลอดภัย เดินทางไปทำงานต่อได้
วันนี้ (8 ก.ย.) เวลา 09.00 น. ร.ต.ท.เนธิวัตร ภูบานชื่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจาก ร.ต.อ.ธนเทพ กองชุมพล นายเวรของ พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ว่ารถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟจราจรบางพระ ถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ตัดกับถนนสาย 304 เลี่ยงเมือง พื้นที่ ม.3 ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจำนวนหลายนาย
ในที่เกิดเหตุเป็นถนนขนาดกว้าง 8 เลน แบ่งเส้นทางขาเข้าและขาออกฝั่งละ 4 ช่องทาง พบเพียงรถยนต์เก๋งแท็กซี่โตโยต้า โคโรลล่า สีส้มแดง ทะเบียน ทร-2886 กทม. ด้านหน้าจอดเกยอยู่ติดริมฟุตบาท สภาพท้ายด้านท้ายพังยับเยิน แต่ไม่พบรถยนต์คู่กรณี
สอบสวนนายอภิเชษฐ์ สุรธรรมจรรยา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 /7 ม.5 ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า รถคันประสบเหตุเป็นรถแท็กซี่ส่วนบุคคลของตนเอง เมื่อช่วงเช้าได้ขับรถรับญาติๆ รวม 7 คน เดินทางมาทำบุญที่วัดโสธรฯ หลังจากมาทำบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเดินทางกลับ จึงได้ขับรถเพื่อที่จะมากลับรถ ที่บริเวณทางแยกสัญญาณไฟบางพระ
โดยขณะที่ตนกำลังจะกลับรถ หลังได้รับสัญญาณไฟเขียวได้มีรถทางตรงที่วิ่งสวนเข้ามา โดยมีหลายคันชะลอรถ แต่ได้มีรถยนต์แคมรี่ติดไซเรนด้านบนวิ่งฝ่าสัญญาณไฟออกมา ด้วยความเร็วสูง พุ่งชนด้านท้ายรถของตนอย่างแรง จนได้รับความเสียหาย รถเสียหลักขึ้นชนฟุตบาท และคนที่นั่งมาด้วยในรถได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คน ถูกผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือนำส่งไปรักษาตัวยัง รพ.โสธราเวช
ส่วนรถคู่กรณีทราบภายหลังว่าเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ทะเบียนตราโล่ 00280 ยี่ห้อแคมรี่สีบอร์นทอง ได้รับความเสียหายที่บริเวณด้านหน้าเพียงเล็กน้อย หลังเกิดเหตุได้จอดรถลงมาดูชั่วคู่ และสอบถามว่ามีใครเป็นอะไรมากหรือไม่ จากนั้นได้ขับรถเลยไป ไม่ได้จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 6 รายเป็นหญิงทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายอาการปานกลาง จำนวน 4 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย
ด้าน ร.ต.อ.ธนเทพ กล่าวว่า รถคันคู่กรณีขับยูเทิร์นกลับรถออกมา โดยที่ไม่ยอมดูรถที่ขับออกมาทางตรง ทั้งที่มีรถขับตรงมาจำนวนหลายคัน แต่โชคดีที่ พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ไม่เป็นอะไรมาก ร.ต.อ.ธนเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟดังกล่าวในช่องทางขาเข้ามีช่องทางบังคับเลี้ยวขวา 1 ช่องทาง ช่องทางให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา 1 ช่องทางและให้ตรงไป 2 ช่องทาง ซึ่งทั้ง 4 ช่องทางนั้นต้องหยุดรถรอสัญญาณไฟจราจร ส่วนในช่องทางด้านซ้ายสุดอีกหนึ่งช่องนั้น เป็นช่องทางเส้นทึบให้รถที่ตรงมาผ่านไปได้ตลอด และผู้ที่ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวนั้น มักขับรถผ่านด้วยความประมาท ใช้ความเร็วสูง โดยไม่ยอมหยุดชะลอรถ ให้รถที่ได้รับสัญญาณไฟเขียวให้เลี้ยวขวา หรือกลับรถผ่านไปก่อน จึงทำให้มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
