ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตู้โฟล์คผู้ว่าฯชลบุรี ถูกกระบะเมาซิ่งตัดหน้า ทำให้รถเสียหลักเสยท้ายกระบะอีกคัน ผู้ว่าฯ ได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดที่ใบหน้า ส่วนคนติดตามอีก 6 คนเจ็บระนาว
เวลา 21.30 น.วันที่ 31 มกราคม เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองชลบุรีได้รับแจ้งเหตุว่า มีรถชนกันและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย และหนึ่งในนั้นเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงรีบรุดไปสอบในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณ ถนนสายเมืองใหม่หน้าร้านอาหารเขาสวนกวาง ได้พบรถตู้โฟล์ค ทะเบียน กค-5555 ชลบุรี ของนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ชนเสยท้ายรถกระบะนิสสันสีเขียว ทะเบียน บว-1231 ชลบุรี ที่มีนายประจิต ตั้นฮ้ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ต.บ้านปึก อ.เมือง จ. ชลบุรี เป็นผู้ขับ
ในระหว่างเกิดเหตุ มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้เห็นรถกระบะ ที่นายประจิต ขับข้ามเลนมาเพื่อจะกลับรถ มาทางร้านอาหารดังกล่าว ขณะที่รถของนายประชา เตรัตน์ และผู้ติดตามที่อยู่ภายในรถอีกจำนวน 7 คนมาถึงพอดี และไม่สามารถหักหลบได้ทัน จึงชนที่ด้านท้าย รถของนายประจิตออย่างแรง จนทำให้รถตู้โฟล์คของนายประชาพลิกหงายท้องทันที
เมื่อชาวบ้านรู้เป็นรถผู้ว่าฯ ต่างเร่งกันช่วยยกรถ เพื่อจะนำร่างผู้ที่ได้รับบาดเจ็บออกส่งโรงพยาบาล
หลังจากที่นำรถตู้โฟล์คของนายประชาขึ้นมาได้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้นำร่างของนายประชาและผู้ติดตามอีก 6 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลเอกชลทันที
จากการตรวจของแพทย์ พบว่านายประชาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า เป็นแผลฉีก เนื่องจากถูกกระจกบาด และตามลำตัว
ส่วนคนขับรถผู้ว่าฯ ชื่อนายโสภณ แผงยาว อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งผู้ที่ติดตามอีก 3 คนชื่อนายทวีศักดิ์ แซ่เตียว อายุ 52 ปี นายอานัท มุตธากุล อายุ 46 ปี และนายอมร ชุติเชาว์กุล อายุ 69 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน ส่วนอีก 2 รายที่มาในรถของผู้ว่าฯได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และได้ช่วยกันนำผู้ว่ารีบนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้ที่ขับรถกระบะนั้นได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน และถูกเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อทำการรักษาตัว
นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง ทะเบียน ภง-4168 กทม.อีกคันที่จอดอยู่ไหล่ทางถูกรถของผู้ว่าฯ ชนได้รับความเสียหาเช่นกัน แต่โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในรถ
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายประจิตส่งโรงพยาบาล ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ โดยนายประจิตได้ยอมรับว่า ตนไม่ได้มองรถของผู้ว่าฯ ที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว เนื่องจากตนจะรีบขับรถข้ามฝั่งเพื่อจะไปรับเพื่อนที่รออยู่ที่ร้านอาหารดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ยังพบว่านายประจิตอยู่ในอาการมึนเมาสุรา จึงได้ยำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย และพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 195 จึงได้ทำบันทึกการจับกุมไว้เบื้องต้น เพื่อจะส่งดำเนินคดีในภายหลังต่อไป