“พันธมิตรฯ สัตหีบ” เคลื่อนพลเข้าทำเนียบฯ สมทบพันธมิตรฯไล่รัฐบาล

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดอีกแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ สัตหีบนับพันทยอยเข้ากรุงเทพฯ ไม่สนประกาศภาวะฉุกเฉิน เคลื่อนพลเข้ากรุงเสริมกำแพงมนุษย์กู้ชาติ ไล่ “สมัคร และรัฐบาล” นายอำเภอ และผู้กำกับการสัตหีบ เจรจาไม่สำเร็จ แสดงความบริสุทธิ์สัตหีบ ให้ค้นอาวุธ ยืนยันเดินทางเข้าร่วมใช้ขันติ อารยะขัดขืน

หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรง กลุ่ม นปก.ฝ่ายรัฐบาล ได้บุกมาจากสนามหลวง เข้าทำร้ายและปะทะกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย และจากกระแสข่าวมีนักการเมือง ข้าราชการระดับชั้นผู้ใหญ่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลมีส่วนร่วมและบงการ และเป็นผู้นำพาไปสู่ความรุนแรง ซึ่งคาดว่ายากที่จะยุติเหตุร้าย ทำให้กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในพื้นที่อำเภอสัตหีบได้รวมตัวกันภายในสวนกรมหลวงชุมพร หรือสวนสาธารณะหนองตะเคียนเก่า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศ เข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเพมหานคร

นายสนธยา ปรียากร อายุ 60 ปี หนึ่งในกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ อำเภอสัตหีบ ที่เดินทางเข้ากรุงเทพในครั้งนี้ด้วยได้กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีการปะทะกับกลุ่ม นปก.และรัฐบาลได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร กลุ่มพันธมิตรฯ ในพื้นที่สัตหีบที่ทราบข่าวได้นัดรวมตัวกันและทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อเวลา 00.30 น.ของวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีผู้เข้ามาสมทบ และเดินทางเข้ากรุงเทพฯในวันนี้อีกนับพันคน

ทุกคนยินดีและพร้อมที่จะจ่ายเงินคนละ 300 บาท เพื่อเป็นค่ารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันนี้ ทั้งที่มีคนไม่หวังดีปล่อยข่าวว่ามีการจ้างไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯคนละ 500 บาท ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมกับขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองของอำเภอสัตหีบได้วางตัวเป็นกลางอย่าได้ขัดขวาง

พวกตนเดินทางไปในครั้งนี้ไปมือเปล่า ไม่มีอาวุธติตัวไปแต่อย่างไร สาเหตุที่ต้องไปเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากไม่ชอบรัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดขายชาติของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ทำให้ชาติล่มจม และเพื่อไปคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ด้านพันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจสัตหีบ ที่ทราบข่าว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดเข้าตรวจสอบเพื่อยับยั้งการเดินทางของกลุ่มพันธมิตรฯสัตหีบ แต่ได้รับการปฏิเสธ พร้อมกล่าวในเรื่องนี้ว่าเป็นความต้องการตามสิทธิส่วนบุคคล ไม่สามารถที่จะห้ามหรือใช้มาตรการรุนแรงได้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐก็คงจะได้เพียงแค่เตือน และขอร้องว่าอย่าเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นได้ แต่เมื่อห้ามไม่เชื่อก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นตามความต้องการต่อไป

ด้าน นายณรงค์ ธีรจันรางกูร นายอำเภอสัตหีบกล่าวว่า ขณะนี้ได้เพียงแต่ห้ามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องไม่ให้เดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน