มหาสารคาม - สมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ ประณามรัฐบาลใช้วิธีการรุนแรงทำร้ายประชาชนที่สะพานมัฆวานฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (31 ส.ค.) ที่จังหวัดมหาสารคาม สมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย นำโดย รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์ฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 ประณามรัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อทำลายเวที พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สะพานมัฆวานฯ และทำร้ายประชาชนที่ต่อสู้ด้วยสองมือเปล่า จนได้รับบาดเจ็บหลายราย
ในแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้นายสมัครพิจารณาตัวเองลาออกจากการเป็นผู้นำ โดยมีข้อความว่า ด้วยในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 รัฐบาลนายสมัครได้สั่งการให้ตำรวจที่มีอาวุธครบมือเข้าทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต่อสู้โดยสันติตามรัฐธรรมนูญ การกระทำอันอันป่าเถื่อนในครั้งนี้ ทำร้ายผู้หญิงเด็ก และคนชรา ที่ไม่มีโอกาสป้องกันตัวบาดเจ็บสาหัส แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้อันชั่วร้ายของรัฐบาลเป็นประจักษ์ต่อสายตาประชาชาติทั่วโลก
สมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งประกอบด้วย ครู อาจารย์ ข้าราชการ นักวิชาการ ที่มีสำนึกหวงแหนประชาธิปไตย รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีมติร่วมกันให้ประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของรัฐบาล ขอให้รัฐบาลซึ่งไร้ความชอบธรรมในการบริหารประเทศเนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ได้แสดงความรับผิดชอบโดยพิจารณาตัวเองลาออกทันที
ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังดันทุรังดื้อรั้น สมาพันธ์ได้กำหนดมาตรการกดดันรัฐบาล โดยขอความร่วมมือจากครูอาจารย์ ข้าราชการและนักวิชาการ ผู้ร่วมอุดมการณ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ทุกๆ อย่างที่รับผิดชอบโดยการลาตามสิทธิ์ เพื่อเป็นการประท้วงการกระทำที่ป่าเถื่อนของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนมาตรการขับไล่รัฐบาลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
มาตรการดังกล่าวนี้อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้าง สมาพันธ์ฯ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ขอให้ประชาชนเข้าใจในความจำเป็นที่ต้องกระทำในครั้งนี้ด้วย และขอขอบพระคุณในความร่วมมือร่วมใจของ ครู อาจารย์ ข้าราชการ นักวิชาการ ทุกท่านที่ร่วมในมาตรการกดดันรัฐบาลในครั้งนี้ ขอเชิดชูความเสียสละ เพื่อประเทศชาติและประชาธิปไตยของทุกท่านในครั้งนี้
ในแถลงการณ์ยังได้ขอให้ทุกฝ่ายจดจำบทเรียนความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ 6 ตุลาคม 2519 เกิดจากการปลุกระดมให้ข้อมูลบิดเบือนของสื่อและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ยั่วยุให้เกิดความโกรธแค้นรุนแรงแตกแยกในสังคมจนกระทั่งเสียเลือดเนื้อของประชาชนผู้สุจริตไปมากมาย
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขอให้สื่อต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ไม่ยั่วยุ บิดเบือนข้อมูล จนนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมเหมือนที่ผ่านมา ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตนและหมู่พวก ประเทศชาติและสังคมจะได้พ้นวิกฤต