อุบลราชธานี - กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี มีคำสั่งให้ทุกสถานีจับตาการเคลื่อนไหวของมวลชนในพื้นที่ และเตรียมกำลังปราบจลาจล 3 กองร้อยไว้พร้อมปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันพลังเงียบที่ยังไม่เห็นด้วยกับกลุ่ม พธม. แต่เห็นเป็นความจำเป็น เพราะรัฐเพิกเฉยคำเรียกร้อง และถ้ารัฐใช้กำลังเข้าปราบปรามก็พร้อมหนุนเต็มที่
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี รายงานความเคลื่อนไหวของกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบในพื้นที่ ได้มีคำสั่งจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดให้สถานีตำรวจทุกแห่งจับตาความเคลื่อนไหวของมวลชนในพื้นที่ทุกกลุ่ม และเน้นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังเข้าตรวจสอบสถานที่ราชการสำคัญ โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจังหวัดอุบลราชธานี ให้มีการจัดกำลังชุดสายตรวจจักรยานยนต์หมุนเวียนเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยชุดละ 1 ชั่วโมง
ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งให้ชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 3 กองร้อยเตรียมพร้อมรับคำสั่งปฏิบัติในที่ตั้งตลอด 24 ชั่วโมง
แต่บรรยากาศในจังหวัดอุบลราชธานี ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนทุกกลุ่ม มีเพียงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และติดตามดูการเคลื่อนไหวการชุมนุมตามจุดต่างๆว่าจะลงเอยกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานความเห็นของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า เพราะรัฐบาลไม่ยอมรับฟังข้อเสนอของประชาชนที่ต้องการให้สนใจแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าประเทศมากกว่ามุ่งแก้ปัญหาให้คนในกลุ่มนักการเมืองกันเอง
นอกจากนี้ ยังมีใช้ช่องว่างของระเบียบและกฎหมายหาประโยชน์ เพื่อเตรียมสะสมทุนทรัพย์ไว้ซื้อเสียงเลือกตั้งหลังรัฐบาลผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ทำให้ประชาชนในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งไม่ชอบพฤติกรรมโกงกินของรัฐบาลอยู่แล้วหมดความอดทนเคลื่อนตัวเข้ายึดสถานที่ทำการสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ขณะเดียวกันกับกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยในการบุกยึดหน่วยงานราชการ แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เพราะเชื่อว่ามีการเตรียมการณ์สร้างเงื่อนไขไว้ล่วงหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่างๆมีจำนวนน้อยกว่าปกติ ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะบุกยึดสถานที่ต่างๆในวันนี้
"หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจะทำให้กลุ่มมวลชนที่ยังไม่ตัดสินใจเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทันที และการชุมนุมจะขยายวงกว้างไปพร้อมกันทั่วประเทศ เหมือนกรณีพฤษภาทมิฬที่เกิดการชุมนุมหลังรัฐบาลใช้กำลังล้อมปราบประชาชน"