ลำปาง – “ช้างพังบานเย็น” วัย 38 ปี พลัดตกรถ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้างกว่า 1 เดือนเศษ ล่าสุดอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์ระบุอาจจะกลายเป็นช้างพิการ
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ที่โรงพยาบาลของมูลนิธิเพื่อนช้าง อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง คณะสัตวแพทย์ และควาญช้าง นำโดยนายสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้ช่วยกันนวดกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาหน้า ด้านขวาของช้างพังบานเย็น อายุ 38 ปี ด้วยยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อชนิดเจลเย็น จากนั้นใช้ผ้าดิบพันทับครั้งแรก 1 รอบก่อนที่จะใช้ผ้ายืดพันทับอีกหนึ่งรอบเพื่อให้กล้ามเนื้อที่อักเสบนั้นทุเลาลง และเพื่อให้ช้างได้ลงน้ำหนักลงที่เท้าขวา
นายสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวว่า พังบานเย็นทางมูลนิธิฯรับมาจากควาญช้างที่มาจากตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรังเจ้าของช้างใช้ช้างรับจ้างพานักท่องเที่ยวเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรัง เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของช้างได้นำขึ้นรถบรรทุกออกจากสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร
ขณะรถวิ่งมาระหว่างทางและรถแล่นขึ้นเนิน และท้ายรถไม่มีฝาปิดช้างได้เลื่อนไถลตกจากรถบรรทุกโดยที่ขาหลังทั้งสองข้างกระแทกกับพื้น แต่ขาหน้าทั้งสองข้างยังอยู่บนรถบรรทุก ขณะนั้นช้างได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าท้องและข้อเท้าหน้าขวาบวม เดินเขย่งปลายเท้าตลอดไม่ลงน้ำหนัก เจ้าของจึงซื้อยามารักษาเองแต่ไม่หาย จนกระทั่งตัดสินใจนำส่งมารักษาที่ โรงพยาบาลของมูลนิธิเพื่อนช้าง เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา
เมื่อมาถึงทางแพทย์ได้เฝ้าดูอาการและทำการเอกซเรย์ ไม่พบว่ากระดูกหักหรือแตกแต่อย่างใด แต่พบว่าช้างมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ไม่สามารถลงน้ำหนักที่เท้าข้างขวาได้เมื่อเวลาเดินหรือยืนจะใช้งวง ช่วยค้ำยันตลอดเวลา และในปัจจุบันพังบานเย็นยังคงลงน้ำหนักเฉพาะที่ส่วนปลายเท้าด้านหน้า (ยืนจิกปลายเท้า)และใช้งวงพยุงน้ำหนักตัว
สัตวแพทย์สรุปได้ว่า ช้างยังมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบอย่างรุนแรง การรักษาต้องใช้ยาแก้ปวด ลดการอักเสบ ยาปฏิชีวนะ และวิตามินบำรุงร่ายกาย ในส่วนว่าจะหายกลับมาเดินได้ตามปกตินั้นมีเพียง 50% เนื่องจากพังบานเย็นจะไม่อยู่นิ่งและเป็นช้างที่ดื้อพอสมควร ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษา
ประกอบกับการส่งตัวมารักษาช้าเกือบไป และการรักษาในแต่ละครั้งต้องใช้ยาที่มากกว่าการ รักษาคนถึง 30 เท่าตัว แต่ทางโรงพยาบาลของมูลนิธิเพื่อนช้าง จะรักษาอย่างเต็มความสามารถและจะดูผลและอาการอีกครั้งประมาณปลายเดือนนี้