นายสัตวแพทย์ปรีชา พ่วงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง เผยความคืบหน้าในการสร้างขาเทียมของช้างพังโม่ชะ ว่าหลังจากทางมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้จัดทำขาเทียมเพื่อใส่ให้กับช้างน้อยพังโม่ชะ เพศเมีย อายุ 2 ปี 7 เดือน ที่เหยียบกับระเบิดในฝั่งประเทศพม่า ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา ขณะนี้ได้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยซึ่งต้องใช้เวลาในการจัดทำขาเทียมนานกว่า 7 ชั่วโมง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและทีมสัตวแพทย์ของโรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้าง ได้นำขาเทียมซึ่งสร้างด้วยพลาสติกชนิดพิเศษ ลองสวมใส่ให้กับช้างน้อยพังโม่ชะ พร้อมสังเกตพฤติกรรมของช้าง ปรากฏว่าช้างพังโม่ชะยอมรับกับขาเทียมดังกล่าวได้ดี และสามารถใช้ค้ำยันได้เป็นอย่างดีระหว่างเดินไปเดินมาภายในโรงพักรักษาตัวของช้าง
นายสัตวแพทย์ปรีชา กล่าวว่า การทำขาเทียมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างมาก อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์จะต้องสังเกตการใช้ขาเทียมของช้างน้อยพังโม่ชะไปสักระยะหนึ่งว่าช้างเกิดมีอาการและพฤติกรรมอย่างไรบ้าง แต่คาดว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไร เนื่องจากที่ผ่านมา ช้างเคยเตรียมความพร้อมใส่ขาเทียมมาแล้ว ด้วยการสวมใส่ถุงผ้าบรรจุขี้เลื่อย และเมื่อมาสวมใส่ขาเทียมจริง น่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมา สำหรับขาเทียมจะใช้งานได้น่าจะไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากต้องอยู่ที่ขนาดของร่างกายและขาของช้างพังโม่ชะ ถ้าหากขาโตขึ้นก็ต้องให้ทาง มูลนิธิ ขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กลับมาสร้างขาเทียมให้อีก ต่อไป
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและทีมสัตวแพทย์ของโรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้าง ได้นำขาเทียมซึ่งสร้างด้วยพลาสติกชนิดพิเศษ ลองสวมใส่ให้กับช้างน้อยพังโม่ชะ พร้อมสังเกตพฤติกรรมของช้าง ปรากฏว่าช้างพังโม่ชะยอมรับกับขาเทียมดังกล่าวได้ดี และสามารถใช้ค้ำยันได้เป็นอย่างดีระหว่างเดินไปเดินมาภายในโรงพักรักษาตัวของช้าง
นายสัตวแพทย์ปรีชา กล่าวว่า การทำขาเทียมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างมาก อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์จะต้องสังเกตการใช้ขาเทียมของช้างน้อยพังโม่ชะไปสักระยะหนึ่งว่าช้างเกิดมีอาการและพฤติกรรมอย่างไรบ้าง แต่คาดว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไร เนื่องจากที่ผ่านมา ช้างเคยเตรียมความพร้อมใส่ขาเทียมมาแล้ว ด้วยการสวมใส่ถุงผ้าบรรจุขี้เลื่อย และเมื่อมาสวมใส่ขาเทียมจริง น่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมา สำหรับขาเทียมจะใช้งานได้น่าจะไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากต้องอยู่ที่ขนาดของร่างกายและขาของช้างพังโม่ชะ ถ้าหากขาโตขึ้นก็ต้องให้ทาง มูลนิธิ ขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กลับมาสร้างขาเทียมให้อีก ต่อไป
