หนองคาย- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติวเข้มแพทย์ พยาบาล นักวิชาการ ในเขตภาตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัดและแพทย์จากประเทศลาวเตรียมพร้อมรับมือการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ในอนาคต
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลแม่โขงหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายแพทย์ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแพทย์ พยาบาล นักวิชาการจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานควบคุมป้องกันโรค ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วที่อยู่ในพื้นที่ 19 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 300 คน และแพทย์จากประเทศลาว 10 คน ในเรื่องการตรวจวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ว่า โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่ละปีมีรายงานผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกปีละมากกว่า 9 แสนครั้ง
ในจำนวนนี้จะมีผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลประมาณปีละ 12,000-75,000 ราย สูญเสียค่ารักษาพยาบาลปีละกว่า 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า หากเกิดการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทย ในขั้นต่ำอาจจะมีผู้ป่วยกว่าล้านคนและเสียชีวิตนับหมื่นคน ในขั้นสูงจะป่วยมากถึง 26 ล้านคน เสียชีวิตนับแสนคน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมมหาศาลด้วย จึงต้องเตรียมมาตรการเร่งด่วนรับมือกับโรคนี้ เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง
โดยสิ่งที่ทั่วโลกกำลังกังวล คือ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดนกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงต้องเข้มงวดเรื่องการรักษา การตรวจวินิจฉัยให้แม่นยำ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสามารถป้องกันตัวและดูแลตนเองในเบื้องต้นได้
ทั้งนี้ ในปี 2551 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.ได้รับรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 9,557 ราย เสียชีวิต 2 รายที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบในภาคกลางมากที่สุด รองลงมาคือภาคอีสาน ภาคใต้และภาคเหนือ โดยมีรายงานมากที่สุดในเดือนมิถุนายน 2,081 ราย แต่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานการณ์ที่แท้จริงมีมากกว่าจำนวนที่รายงานหลายเท่าตัว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลแม่โขงหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายแพทย์ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแพทย์ พยาบาล นักวิชาการจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานควบคุมป้องกันโรค ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วที่อยู่ในพื้นที่ 19 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 300 คน และแพทย์จากประเทศลาว 10 คน ในเรื่องการตรวจวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ว่า โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่ละปีมีรายงานผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกปีละมากกว่า 9 แสนครั้ง
ในจำนวนนี้จะมีผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลประมาณปีละ 12,000-75,000 ราย สูญเสียค่ารักษาพยาบาลปีละกว่า 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า หากเกิดการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทย ในขั้นต่ำอาจจะมีผู้ป่วยกว่าล้านคนและเสียชีวิตนับหมื่นคน ในขั้นสูงจะป่วยมากถึง 26 ล้านคน เสียชีวิตนับแสนคน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมมหาศาลด้วย จึงต้องเตรียมมาตรการเร่งด่วนรับมือกับโรคนี้ เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง
โดยสิ่งที่ทั่วโลกกำลังกังวล คือ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดนกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงต้องเข้มงวดเรื่องการรักษา การตรวจวินิจฉัยให้แม่นยำ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสามารถป้องกันตัวและดูแลตนเองในเบื้องต้นได้
ทั้งนี้ ในปี 2551 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.ได้รับรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 9,557 ราย เสียชีวิต 2 รายที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบในภาคกลางมากที่สุด รองลงมาคือภาคอีสาน ภาคใต้และภาคเหนือ โดยมีรายงานมากที่สุดในเดือนมิถุนายน 2,081 ราย แต่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานการณ์ที่แท้จริงมีมากกว่าจำนวนที่รายงานหลายเท่าตัว
