พิจิตร - ศาลแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวยุติธรรมเด็ดขาด พิพากษาจำคุก 2 จ้าของร้านเกมเห็นแก่ได้ปล่อยเด็กเข้าเล่นเกม ทั้งชุดนักเรียนถือเป็นการทำลายเยาวชน คนละ 2 เดือน แต่เมตตาที่รับสารภาพเปลี่ยนโทษนอนเรือนจำเป็นกักขังแทน 1 เดือนในสถานที่กักขังกลางเรือนจำพิจิตร
วันนี้ (12 ส.ค.) ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พิจิตร มีมาตรการเข้มงวดกับร้านเกม และการจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีอยู่เสมอ ล่าสุดศาลแผนกคดีเด็กเยาวชนและครอบครัว ที่มี นายสุขุม นามวิเศษ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลได้พิจารณาคดีผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 2542 คดีดำที่ 149-150/2551, คดีแดงที่ 132/133/2551
ทั้งนี้ มีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ และ มีนายปรัชญา แก้วบด อายุ 56 ปี ผู้ดูแลร้านเกม พี-เจ เน็ตแอนด์เกม ตั้งอยู่ที่ 10/2 หมู่8 ต.คลองคะเชนทร์ และ นายณรงค์ กลัดแก้ว อายุ 33 ปี ผู้ดูแลร้าน N-P เกมส์ ตั้งอยู่เลขที่ 140 ต.ในเมือง จ.พิจิตร เป็นจำเลยในความผิดตามกฎหมายเนื่องจากมีการกระทำการโดยยินยอมให้เยาวชน ทั้ง 2 แห่ง รวม 5 คน เป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปี ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ทั้งๆ ที่เป็นเวลาศึกษาเล่าเรียนของเด็ก
การกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นการกระทำโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเยาวชน แต่จำเลยซึ่งเป็นผู้ดูแลร้านเกมกลับฝ่าฝืนกฎหมาย จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 คน คนละ 2 เดือน แต่ทั้งคู่ให้การรับสารภาพอีกทั้งไม่เคยต้องโทษมาก่อน เห็นควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน 1 เดือน โดยให้กักขังในที่สถานกักขังกลาง เรือนจำจังหวัดพิจิตร ต่อไป
ดร.ปรีชา กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นบทเรียนของผู้ประกอบการธุรกิจร้านเกม ที่เห็นแก่ได้ ปล่อยเด็ก-เยาวชน ให้เล่นเกมส์ในเวลาเรียนส่งเสริมให้เด็กหนีเรียน นำเกมลามก, เกมใช้ความรุนแรง มาเป็นเหยื่อล่อเด็กให้อยู่ในวังวน สุดท้ายเมื่อต้องคดีก็ต้องรับโทษสูงเช่นนี้ ซึ่งนับว่ายุติธรรมแล้ว และขอเตือนผู้ประกอบการร้านเกมที่เห็นแก่ได้ระวังจะเป็นรายต่อไปที่ต้องถูกจับและขึ้นศาลยุติธรรม จนถึงเข้าเรือนจำอีกด้วย
วันนี้ (12 ส.ค.) ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.พิจิตร มีมาตรการเข้มงวดกับร้านเกม และการจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีอยู่เสมอ ล่าสุดศาลแผนกคดีเด็กเยาวชนและครอบครัว ที่มี นายสุขุม นามวิเศษ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลได้พิจารณาคดีผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 2542 คดีดำที่ 149-150/2551, คดีแดงที่ 132/133/2551
ทั้งนี้ มีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ และ มีนายปรัชญา แก้วบด อายุ 56 ปี ผู้ดูแลร้านเกม พี-เจ เน็ตแอนด์เกม ตั้งอยู่ที่ 10/2 หมู่8 ต.คลองคะเชนทร์ และ นายณรงค์ กลัดแก้ว อายุ 33 ปี ผู้ดูแลร้าน N-P เกมส์ ตั้งอยู่เลขที่ 140 ต.ในเมือง จ.พิจิตร เป็นจำเลยในความผิดตามกฎหมายเนื่องจากมีการกระทำการโดยยินยอมให้เยาวชน ทั้ง 2 แห่ง รวม 5 คน เป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปี ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ทั้งๆ ที่เป็นเวลาศึกษาเล่าเรียนของเด็ก
การกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นการกระทำโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเยาวชน แต่จำเลยซึ่งเป็นผู้ดูแลร้านเกมกลับฝ่าฝืนกฎหมาย จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 คน คนละ 2 เดือน แต่ทั้งคู่ให้การรับสารภาพอีกทั้งไม่เคยต้องโทษมาก่อน เห็นควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน 1 เดือน โดยให้กักขังในที่สถานกักขังกลาง เรือนจำจังหวัดพิจิตร ต่อไป
ดร.ปรีชา กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นบทเรียนของผู้ประกอบการธุรกิจร้านเกม ที่เห็นแก่ได้ ปล่อยเด็ก-เยาวชน ให้เล่นเกมส์ในเวลาเรียนส่งเสริมให้เด็กหนีเรียน นำเกมลามก, เกมใช้ความรุนแรง มาเป็นเหยื่อล่อเด็กให้อยู่ในวังวน สุดท้ายเมื่อต้องคดีก็ต้องรับโทษสูงเช่นนี้ ซึ่งนับว่ายุติธรรมแล้ว และขอเตือนผู้ประกอบการร้านเกมที่เห็นแก่ได้ระวังจะเป็นรายต่อไปที่ต้องถูกจับและขึ้นศาลยุติธรรม จนถึงเข้าเรือนจำอีกด้วย