เชียงราย - รองผู้ว่าฯเชียงราย มีคำสั่งย้ำเตือนเกษตรกรเจ้าของสัตว์ปีก หรือประชาชนให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกในช่วงฤดูฝน โดยหากพบเห็นสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกล้มป่วยตาย ตามพื้นที่สาธารณะ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หลังมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกขึ้นในบางประเทศของทวีปเอเชีย เช่นในประเทศอินเดีย และเกาหลีใต้
นายชนะ นาคสุริยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ตามที่ยังคงพบวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกขึ้นในบางประเทศของทวีเอเชีย เช่นในประเทศอินเดีย และเกาหลีใต้ และประกอบกับในขณะนี้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล เข้าสู่ฤดูฝน เพื่อเป็นการวางระบบเตือนภัยของมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนก ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีประวัติเคยเกิดโรคไข้หวัดนกในปี พ.ศ.2547 และเป็นพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดนก
จังหวัดฯ จึงมีคำสั่งย้ำเตือนเกษตรกรเจ้าของสัตว์ปีก หรือประชาชนจังหวัดเชียงราย ให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกในช่วงฤดูฝน โดยหากพบเห็นสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกล้มป่วยตาย ตามพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้วย หนองคลอง บึง ลำน้ำสาธารณะ หรือถนนให้แจ้งเครือข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก หรือหากพบมีกลุ่มนกอพยพ หรือนกธรรมชาติ ป่วยตาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยาน หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักบริหารจัดการอนุรักษ์พื้นที่ 15 และห้ามมิให้สัมผัสสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกที่ป่วยและตาย โดยมิได้ป้องกันตนเอง
นายชนะ กล่าวอีกว่า ห้ามผู้ประกอบการหรือผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ซื้อขายสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกที่ป่วยและตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือนำไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือทิ้งซากสัตว์ ปีกในที่สาธารณะ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 8 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ห้ามบริโภคสัตว์ปีกที่ป่วยตามผิดปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุและควรบริโภคสัตว์และไข่จากสัตว์ปีกที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น, ให้ทุกอำเภอสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบ สอดส่องและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเน้นย้ำในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในระยะนี้
นายชนะ นาคสุริยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ตามที่ยังคงพบวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกขึ้นในบางประเทศของทวีเอเชีย เช่นในประเทศอินเดีย และเกาหลีใต้ และประกอบกับในขณะนี้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล เข้าสู่ฤดูฝน เพื่อเป็นการวางระบบเตือนภัยของมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนก ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีประวัติเคยเกิดโรคไข้หวัดนกในปี พ.ศ.2547 และเป็นพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดนก
จังหวัดฯ จึงมีคำสั่งย้ำเตือนเกษตรกรเจ้าของสัตว์ปีก หรือประชาชนจังหวัดเชียงราย ให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกในช่วงฤดูฝน โดยหากพบเห็นสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกล้มป่วยตาย ตามพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้วย หนองคลอง บึง ลำน้ำสาธารณะ หรือถนนให้แจ้งเครือข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก หรือหากพบมีกลุ่มนกอพยพ หรือนกธรรมชาติ ป่วยตาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยาน หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักบริหารจัดการอนุรักษ์พื้นที่ 15 และห้ามมิให้สัมผัสสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกที่ป่วยและตาย โดยมิได้ป้องกันตนเอง
นายชนะ กล่าวอีกว่า ห้ามผู้ประกอบการหรือผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ซื้อขายสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกที่ป่วยและตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือนำไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือทิ้งซากสัตว์ ปีกในที่สาธารณะ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 8 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ห้ามบริโภคสัตว์ปีกที่ป่วยตามผิดปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุและควรบริโภคสัตว์และไข่จากสัตว์ปีกที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น, ให้ทุกอำเภอสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบ สอดส่องและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเน้นย้ำในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในระยะนี้